นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) กล่าวว่า บริษัทได้เดินหน้าขยายทำเลพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับบมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) โดยที่โครงการในจังหวัดภูเก็ตเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ภาพรวมยอดขายของ ASW มียอดขายสะสม 9 เดือนแรกปี 67 ทำได้กว่า 1.45 หมื่นล้านบาทโดยเป็นสัดส่วนที่มาจาก TITLE อยู่ที่ 43% ของยอดขายทั้งหมด
โดยในช่วงไตรมาส 4/67 บริษัทได้เร่งเดินหน้าเปิดตัวโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต โดยเปิดโครงการใหม่รวม 4 โครงการ ซึ่งมากกว่าแผนที่วางไว้ มูลค่ารวมกว่า 1.55 หมื่นล้านบาท ได้แก่ 1. เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจนมียอดขายถึง 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์ 2. เดอะ โมเดวา (THE MODEVA) มูลค่า 6.2 พันล้านบาท 3. เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา (THE TITLE ARTRIO BANG-TAO) มูลค่า 2.6 พันล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนต.ค.นี้ และ 4.คาตาเบลโล (KATABELLO) ในกะตะ มูลค่า 5.5 พันล้านบาท มีแผนเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 68
บริษัทเชื่อมั่นว่าการปรับแผนดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายของโครงการในภูเก็ตช่วงไฮซีซันนี้ให้เพิ่มขึ้นอีก 5 พันล้านบาท และช่วยสร้างยอดขายได้ตามเป้า 1.78 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้ในปี 67 ยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมาย 8.7 พันล้านบาท โดยที่บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่กว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยโอนต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมโอนโครงการที่สร้างเสร็จใหม่อีก 4 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (Kave Pop Salaya) 2. โครงการเคฟ เอมบริโอ รังสิต (Kave Embryo Rangsit) 3. โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทราวัชรพล (The Arbor RamintraWatcharapol) และ 4. โครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) มูลค่ารวม 3.3 พันล้านบาท ขณะที่ Backlog ของ TITLE มีอยู่ราว 8 พันล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/67 จากเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 (THE TITLE HALO 1) และคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการอื่นๆ ต่อเนื่องจนถึงปี 70