นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์กองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) หรือ IMPACT กล่าวว่า บริษัทสนใจเข้าร่วมพัฒนาโครงการ Entertainment Complex ที่รัฐบาลมีแนวคิดผลักดันโครงการ
จากความสามารถและความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ IMPACT ที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมาก และมองว่าพื้นที่ในเมืองทองธานีมีความเหมาะสมที่จะใช้ทำโครงการ Entertainment Complex จากศักยภาพของพื้นที่ และการเข้าถึงโครงการที่สะดวกที่มีทั้งถนนที่ตัดออกไปได้หลายทาง ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2/68 ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการเข้าไปเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ Entertainment Complex
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีแผนในการขายสินทรัพย์ 2 โรงแรม ได้แก่ NOVOTEL Bangkok IMPACT และ IBIS Bangkok IMPACT เข้ากองทรัสต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนใน 12 เดือนข้างหน้า พร้อมทั้งมีแผนพัฒนาโรงแรมแห่งใหม่เพิ่มในพื้นที่เมืองทองธานี เป็นโรงแรม 5 ดาว ขนาด 1,000 ห้อง คาดใช้เงินลงทุน 4-5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าของโรงแรมทั้ง 2 แห่งที่จะขายเข้ากองทรัสต์ IMPACT
นายพอลล์ กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมของรายได้ของกองทรัสต์ IMPACT ในงวดปี 68/69 เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากงวดปี 68/69 จากความต้องการในการจัดงานอีเว้นท์ และคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานคอนเสิร์ตใน IMPACT ARENA จองเต็มล่วงหน้าไปถึงปี 68 แล้ว และพื้นที่ Challenger Hall, Impact Exhibition Hall 4-12 และ Forum เริ่มมีการทยอยจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ของ IMPACT ได้เล็งเห็นถึงการขยายฐานใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าจากจีน ซึ่งมีทีมงานเข้าไปทำการตลาดในประเทศจีนมากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้าสนใจเข้ามาใช้พื้นที่ของ IMPACT จัดงานอีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงการที่ผลักดันให้กลุ่มที่เป็น Infuencer ที่เริ่มมีการจัดอีเว้นท์ออกมาจากแพลทฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้ได้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาเสริม สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในปี 68 และเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลสนับสนุน ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ TCEBในปี 67 (ต.ค. 66 ? ก.ย. 67) พบว่า ทิศทางอุตสาหกรรม MICE มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่า ปี 68 ไทยจะมีรายได้จากอุตสาหกรรม MICE ถึง 2 แสนล้านบาทสะท้อนโอกาสในการผลักดันประเทศไทยเป็น Hub การจัดงานแห่งภูมิภาค โดยกลยุทธ์ของ IMPACT ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ นอกจากขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยแล้ว ยังเปิดเกมบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น สะท้อนจากภาพรวมงานกลุ่ม Entertainment ในปี 62 อยู่ที่ประมาณ 224 ล้านบาท และในปี 67 คาดการณ์สิ้นปีรายได้จะอยู่ที่ราว 380 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 70% อาทิ งานคอนเสิร์ต และงานมิวสิคเฟสติวัล ที่กลับมาจัดงานเพิ่มชึ้นอย่างคึกคักหลังโควิด และอีกไฮไลท์ที่เติบโตขึ้นมาก คืองานท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) ในปี 66 กลุ่มนี้ทำรายได้ 123 ล้านบาท สิ้นปีนี้คาดเติบโตเท่าตัวอยู่ที่ 250 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี งานในกลุ่ม Global Conventions อยู่ระหว่างพูดคุยและรอคอนเฟิร์มเพิ่มเติม ขณะที่งาน Exhibitions ในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจ และคาดการณ์จะดีขึ้นต่อเนื่อง มีงานใหญ่เข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติมอีก
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT) กล่าวว่า สำหรับรายได้งวดปี 67/68 (เม.ย. 67-มี.ค.68) คาดว่าจะกลับมาใกล้เคียงก่อนโควิด หรือเติบโต 25% จากปีก่อนหน้า โดยมองว่าแนวโน้มไตรมาส 2 ของงวดปี 67-68 รายได้มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ที่มีรายได้ 664.8 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 50.1% และกำไรสุทธิ 379 ล้านบาท
ด้านหนี้สินในปัจจุบัน อยู่ที่ 3.86 พันล้านบาท โดยในช่วงเดือนก.ย. ที่ผ่านมามีการรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันขึ้นลง ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งล่าสุดที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้ได้ผลดี จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยต้นทุนทางการเงินจะลดลงจากปีก่อน
ส่วนการจ่ายปันผล คาดว่าปีนี้หากรายได้เติบโตได้ตามเป้าหมาย กำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้น และมีโอกาสจ่ายเงินปันผลได้มากกว่าปีก่อน โดยปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ของกองทรัสต์ IMPACT อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท และมีพื้นที่เช่ารวม 122,165 ตารางเมตร