นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) กล่าวว่า บริษัทยังคงมั่นใจที่จะรักษาการเติบโตของผลการดำเนินงานในระดับตัวเลข 2 หลัก ในทุกปี โดยที่มีปัจจัยหนุนมาจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Power และ Solution ต่าง ๆ ซึ่งยังเห็นความต้องการใช้ที่มีความแข็งแกร่ง จากการใช้กำลังไฟ และการประมวลผลสมรรถนะสูงจากเทคโนโลยี AI ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น ซึ่งปัจจัยที่หนุนต่อรายได้ของบริษัทเป็นหลัก
ขณะที่ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ว่าจะมีการชะลอตัวลงบ้าง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้คนชะลอการซื้อรถยนต์ลงตามไปด้วย แต่ยังเชื่อว่าเทรนด์การขับเคลื่อนเพื่อลดคาร์บอน จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตแบบโดดเด่นในอนาคต รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการกีดกันทางการค้า ทำให้เกิดการย้ายฐานผลิต ซึ่งเป็นโอกาสของธุรกิจของ DELTA ในอนาคต
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 67 ยังมั่นใจผลงานเติบโตตัวเลข 2 หลัก หลังจากผลงานในช่วง 9 เดือนแล้ว เติบโต 10% โดยแนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/67 ยังมีทิศทางที่ดี จากธุรกิจ Power Electronics ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center และยังเห็นความต้องการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Cloud หรือ Colocation ที่ยังเติบโตได้ดี แต่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับรถ EV มีการชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการบริหารสินค้าคงคลัง และปรับแผนการขายให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
ด้านภาพรวมในปี 68 มองภาพเศรษฐกิจมีโอกาสดีขึ้น จากการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจในโซนเอเชียและยุโรป และทิศทางของเงินเฟ้อแม้ว่ายังคงอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็เริ่มชะลอตัวลง แต่บริษัทก็ยังมีความระมัดระวังความเสี่ยงอยู่บ้าง โดยเฉพาะปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศที่มีผลต่อการค้าของโลก และสิ่งที่บริษัทยังให้ความความสำคัญในการผลักดันและเดินหน้าต่อยังคงเป็นการเน้นพัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยี
ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทในช่วงปี 68 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการลงทุนเพิ่มระบบทำงานแบบอัตโนมัติในสายการผลิต (Automation) ซึ่งลงทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 67 โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าหลักบ้างกลุ่ม เช่น รถยนต์ EV ที่มีความต้องการด้านสายการผลิตอัจฉริยะ และกลุ่มบริหารจัดการความร้อน (Power) จะมีการลงทุนด้าน Automation เช่นกัน อีกทั้งลงทุนด้านก่อสร้างอาคารใหม่เพื่อการผลิต ในนิคมอุสาหกรรมเวลโกรว์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างเวลโกรว์ 3 และ เวลโกรว์ 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/68 หรือไตรมาส 3/68 และอาคารโซนนิคมอุตสาหกรรมบางปู จำนวน 2 อาคาร คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2/69 หรือไตรมาส 3/69