นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาด หุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบจำกัด โดยที่ยังรอความชัดเจนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีแรงกดดันเข้ามาในเรื่องของการคัดเลือกประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เลื่อนออกไป ทำให้เป็นปัจจัยกดดันเข้ามาต่อตลาดหุ้นไทยบ้าง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,465-1,470 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,794.60 จุด ลดลง 257.59 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,712.69 จุด ลดลง 16.11 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,179.98 จุด ลดลง 59.93 จุด หรือ -0.33%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,274.22 จุด เพิ่มขึ้น 220.55 จุด หรือ +0.58% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,409.94 จุด ลดลง 157.58 จุด หรือ -0.77% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,306.81 จุด ลดลง 3.40 จุด หรือ -0.10%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 พ.ย.) ที่ 1,462.95 จุด ลดลง 1.22 จุด (-0.08%) มูลค่าซื้อขายราว 28,418.43 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7.61 ล้านบาท (4 พ.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (4 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 71.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 พ.ย.) อยู่ที่ 6.17 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.78 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 33.65-33.90 รอลุ้นผลเลือกตั้งสหรัฐ
- เปิด "3 ปม" เหตุผลเลื่อน เลือกสรรหาประธานบอร์ด ธปท. ไปวันที่ 11 พ.ย. "สถิตย์" แจงกรรมการขอเวลาพิจารณา เอกสารเพิ่ม เปิดทาง "คลัง" เสนอชื่อประธานใหม่แทนกิตติรัตน์ "พิชัย" พร้อมประสานทุกฝ่ายผ่าทางตันเลือกประธานบอร์ดคนใหม่ "เฟทโก้" เคารพการตัดสินใจบอร์ดสรรหา
- FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรงอย่างมาก" ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง นักลงทุนกระตุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐภาครัฐ อีกทั้งดอกเบี้ยลด และท่องเที่ยวฟื้นเป็นแรงหนุน กังวลเงินเฟ้อ-ความขัดแย้งระหว่างประเทศฉุดความเชื่อมั่น
- นายกฯ อิ๊งค์นั่งหัวโต๊ะประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บี้เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุน 9.6 แสนล้านปีงบ 68 ขีดเส้นต้องให้ได้ตามเป้าหมายที่ 80% หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน "คลัง" ยันยังไม่ได้ชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- การประชุมของคณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติถูกเลื่อนจากวานนี้ เป็นวันที่ 11 พ.ย. 67 ท่ามกลางกระแสข่าวคลังขอเปลี่ยนเสนอบุคคลเป็น "พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์" ด้าน "สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์" ประธานคัดเลือก ยันคลังสามารถเปลี่ยนได้ ส่วน "พิชัย" เผยไม่ทราบรายละเอียด บอกคนเป็นประธานฯ ไม่ได้มีอำนาจอะไรมากนัก
- "กรมธุรกิจพลังงาน" สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 9 เดือนของปี 67 (ม.ค.?ก.ย.) แตะ 155.37 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1.2% โชว์น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) พุ่ง 17.3% ขยายตัวตามภาคการท่องเที่ยว ส่วนน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการเพิ่มขึ้น 2.9% และการใช้ LPG โต 3.2%
- "พิชัย" หารือ "รัฐมนตรียูเออี" พร้อมคณะนักธุรกิจ ชวนลงทุนจัดตั้ง Data Center ในไทย ประกาศความพร้อมเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหาร เร่งสรุปผลเจรจา CEPA ไทย-UAE โดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "IROYAL" ในวันที่ 5 พ.ย.2567 ราคา IPO หุ้นละ 6.5 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 377 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,495 ล้านบาท
- SHR (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 3.80 บาท คาดผลการดำเนินงาน 3Q24 จะขาดทุนปกติลดลงเหลือ 46 ลบ. จากไตรมาสก่อนที่ 81 ลบ. หนุนจาก Rev Par ที่เติบโต 15% y-y และ 6% q-q ขณะที่ y-y ขาดทุนสูงขึ้นจาก Management Fee ของโรงแรม Outrigger และ UK และส่วนแบ่งขาดทุนของ SO/ Maldives แต่หากตัดรายการนี้ออก 3Q24 จะเริ่มพลิกมีกำไร เราคาดผลการดำเนินงานจะพลิกมีกำไรได้ใน ไตรมาส 4/67 - ไตรมาส 1/68 หนุนจาก High Season ของการท่องเที่ยว และดอกเบี้ยจ่ายที่ทยอยตามดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดปี 2567 มีกำไรปกติ 150 ลบ. +88% y-y และเร่งขึ้นเป็น 367 ลบ. +145% y-y ราคาหุ้นปัจุจบันไม่แพง เทรด 2024PER ที่ 21 เท่า และ 2025PBV ที่ 0.5 เท่า
- MEB (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 38.89 บาท กำไรสุทธิงวด 1H67 +21%YoY ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามรายได้(+15%YoY) ที่ขยับขึ้นทั้งในส่วนของแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite สำหรับการดำเนินงาน 2H67 นี้ คาดว่าจะยังคงสดใส YoY ต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4/67 มีแรงหนุนจากการออกหนังสือใหม่รับสัปดาห์หนังสือแห่งชาติช่วงต.ค. ด้านMEB เองวางเป้ารายได้ปี67 จะโตราว +10-15%YoY และช่วงถัดไป มีแผนสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในตปท. โดยใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เน้นประเทศในเอเชียเป็นหลัก ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรสุทธิปี67 และ ปี68 ของ MEB* ที่ 453 ลบ.(+17%YoY) และ 522 ลบ.(+15%YoY)
- CPALL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 80.00 บาท คาดแนวโน้มไตรมาส 3/67 เติบโต y-y แต่ลดลง q-q ตามฤดูกาล โดย SSSG ของ CPALL ในช่วงไตรมาส 3/67 คาดยังคงเติบโต +2.5% แข็งแกร่งกว่ากลุ่มค้าปลีก โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคที่ขยายตัว ผสานกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งต่อไปยังแนวโน้ม ไตรมาส 4/67 ที่จะกลับมาเร่งขึ้นทั้ง q-q และ y-y