บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เตรียมปรับขึ้นราคาขายโครงการของบริษัทประมาณ 5% ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/51 หลังจากต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยับเพิ่มจำนวนโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้เป็น 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท จากเดิม 12 โครงการ หลังจากเข้าซื้อที่ดินทำเลดีไว้ 3 แห่งทั้งย่านรามคำแหง, เจริญนคร และ ภาษีเจริญ ขณะที่ปรับกลยุทธพัฒนาบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์เพิ่มเพื่อกระจายความเสี่ยง
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหารและประธานกรรมการ SPALI กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังมีโครงการที่มีต้นทุนเดิมอยู่จึงสามารถชะลอการปรับราคาได้ถึงไตรมาส 3/51 แม้ว่าต้นทุนหลายอย่างจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมามาก โดยบริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/51 ประมาณ 1.26 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยโอนภายในปีนี้ 3.2 พันล้านบาท ในปี 52 อีก 4.56 พันล้านบาท และ ปี 53 ประมาณ 4.9 พันล้านบาท
นางอัจฉรา ตั้งมติธรรม กรรมการบริษัท กล่าวยอมรับว่า ในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะปรับลดลงเล็กน้อยมาที่ 38-39% จากระดับ 40-41% ในปี 50 เนื่องจากโครงการใหม่มีมาร์จิ้นต่ำลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธทางธุรกิจด้วยการลดสัดส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมมาที่ 55% จากที่สูงถึง 70% ในปี 50 ขณะเดียวกันก็เพิ่มสัดส่วนบ้านเดี่ยวขึ้นมาเป็น 30% ทาวน์เฮ้าส์เป็นกว่า 10% เพื่อกระจายความเสี่ยง
"ปีนี้ศุภาลัยจะปรับพอร์ตทำยอดขายบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น เราไม่อยากโตแบบเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งมากไป แม้จะยอมรับว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะเป็นตลาดที่ดีอยู่ เพราะแนวโน้มคนยังต้องการบ้านใจกลางเดมือง และยิ่งน้ำมันแพงคนก็ต้องการมาก"นายอธิป กล่าว
*เปิด 14 โครงการใหม่ มีแลนด์แบงก์ 3.5 พันลบ.
นายประทีป กล่าวว่า บริษัทเข้าซื้อที่ดินใหม่จำนวน 3 แปลง ได้แก่ บริเวณ ถนนรามคำแหง , ถนนเจริญนคร และ ย่านภาษีเจริญ
โดยในปีนี้ใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินใหม่ไปแล้ว 2 พันล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 3 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาเพิ่มเป็น 3.2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการที่รามคำแหงจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม มูลค่าราว 1,400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในราวไตรมาส 3/51 โครงการที่เจริญนคร ก็จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม มูลค่า 4 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 4/51
ส่วนโครงการที่ภาษีเจริญจะพัฒนาในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ คาดว่าจะเปิดขายโครงการได้ภายในปี 52 ยังไม่ระบุมูลค่าโครงการ
นายประทีป กล่าวว่า จากแผนงานดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีการเปิดตัวโครงการเพิ่ใปน 14 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ประมาณ 12 โครงการ
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/51 มีรายได้ 1.05 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 173 ล้านบาท แม้จะชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เชื่อว่าในไตรมาส 2/51 ทั้งรายได้และกำไรจะปรับตัวดีขึ้นมาก เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ประกาศบังคับใช้ในช่วงปลายไตรมาส 1/51 จะทำให้ลูกค้าเข้ามาโอนบ้านมากขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีถึง 4%
นายอธิป กล่าวว่า 4 เดือนแรกของปี 51 บริษัทมียอดขายแล้ว 3.2 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับแผนงานที่ตั้งเป้าไว้ 1 หมื่นล้านบาทในปี 51 คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ใกล้เคียงกับโครงการเดิมที่รอการโอน 4 พันล้านบาทในปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--