นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/67 สถานการณ์ความผันผวนและไม่แน่นอนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประกอบกับ ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้จากสภาวะเศรษฐกิจจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรปชะลอตัว ส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง และกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/67 IRPC มีผลขาดทุนสุทธิ 4,880 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/67 ขาดทุนเพิ่มขึ้น 4,148 ล้านบาท โดยมีรายได้การขายสุทธิ 69,964 ล้านบาท ลดลง 4,102 ล้านบาท หรือ 6% สาเหตุหลักจากราคาขายเฉลี่ยลดลง 10% ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แม้ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 4%
สำหรับธุรกิจปิโตรเลียม บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการกลั่นตามราคาตลาด (Market GRM) เพิ่มขึ้น เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเตาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะส่วนต่างราคายางมะตอยปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามการใช้งบประมาณประจำปี
ธุรกิจปิโตรเคมี มีกำไรขั้นต้นตามราคาตลาด (Market PTF) เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มสไตรีนิกส์กับวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนทำให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 3,650 ล้านบาท หรือ 5.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน
จากความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจจีน สหรัฐอเมริกาและยุโรปที่ชะลอตัว ส่งผลราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ทำให้บริษัทขาดทุนสต็อกน้ำมัน 3,366 ล้านบาท หรือ 5.27 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ามูลค่าสุทธิที่ได้รับ (NRV) 1,634 ล้านบาท หรือ 2.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล บริษัทฯ จึงขาดทุนสต๊อกน้ำมันสุทธิ 5,000 ล้านบาท หรือ 7.83 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลต่อ EBITDA ไตรมาส 3/67 อยู่ที่ - 4,843 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่ EBITDA 1,439 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่าทำให้บริษัทมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน 763 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ 182 ล้านบาท รวมทั้งกำไรบริหารความเสี่ยงน้ำมัน(ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) 575 ล้านบาท แต่มีค่าเสื่อมราคา 2,327 ล้านบาท และมีต้นทุนการเงินสุทธิ จำนวน 687 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 4,880 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 4,148 ล้านบาท จากไตรมาสที่แล้ว
สำหรับแนวโน้มตลาดน้ำมันดิบในไตรมาสที่ 4/67 คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดีเซลและน้ำมันเตาในช่วงฤดูหนาว ในขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ความต้องการผลิตภัณฑ์จะปรับตัวดีขึ้นเพื่อเตรียมรับเทศกาลปลายปี นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่มุ่งเน้นการสร้างกำลังซื้อภายในประเทศ การบรรเทาภาวะเงินฝืดและการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้มีสัญญาณเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม
บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ SOS (Save Overcome Strive) เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านการบริหารจัดการการลงทุนและสินทรัพย์ พร้อมติดตามความผันผวนของปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนมาตรการต่าง ๆ ในการรับมือได้อย่างทันท่วงที
IRPC มุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการเชื่อมโยงการจัดการด้านสังคมกับการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Social-Linked THOR) กับธนาคารกสิกรไทย เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการส่งเสริมด้าน ESG ที่ชัดเจนและวัดผลได้