นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวได้เล็กน้อย สอดคล้องตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามที่ตลาดคาด ขณะที่แม้ประธานเฟด จะไม่ได้ส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป แต่นักลงทุนก็ได้ให้น้ำหนักมากถึง 75% ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% หลังเฟด มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้ออาจปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่มาก และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นแต่ก็อยู่ในโซนที่ต่ำ ส่งผลให้อาจมีแรงเกร็งกำไรเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง
ทั้งนี้แนะติดตาม โค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/67 บริษัทจดทะเบียนไทย, ตัวเลขเศรษฐกิจใน สหรัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงของไทยในช่วงที่เหลือของปี
ให้แนวรับไว้ที่ 1,460 จุด และแนวต้านที่ 1,480 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,729.34 จุด ลดลง 0.59 จุด หรือ -0.001%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,973.10 จุด เพิ่มขึ้น 44.06 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,269.46 จุด เพิ่มขึ้น 285.99 จุด หรือ +1.51%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,783.45 จุด เพิ่มขึ้น 402.04 จุด หรือ +1.02%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 21,199.96 จุด เพิ่มขึ้น 246.62 จุด หรือ +1.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,502.13 จุด เพิ่มขึ้น 31.47 จุด หรือ +0.91%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 พ.ย.) ที่ 1,469.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด (+0.16%) มูลค่าซื้อขายราว 55,622.89 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,750.83 ล้านบาท (7 พ.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (7 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 พ.ย.) อยู่ที่ 5.41 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาท 34.07 แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค รับดอลลาร์อ่อนหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย
- ชาติเอเชียเตรียมแผนรับมือผลกระทบเลือกตั้งสหรัฐ หลัง "ทรัมป์" เป็นประธานาธิบดีสมัย 2 แบงก์ชาติติดตามค่าเงินใกล้ชิด "สภาพัฒน์" เร่งประเมินผลเลือกตั้ง "พิชัย" สั่ง ทูตพาณิชย์วิเคราะห์การค้าโลก "จีน" แถลงกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้หลังรอดูเลือกตั้ง "อินโดนีเซีย" เล็งแทรกแซงค่าเงิน "ไต้หวัน" ช่วยบริษัทย้ายฐานออกจาก จีน "เกาหลีใต้" เพิ่มการดูแลค่าเงินและการค้า
- ก.ล.ต. จ่อกล่าวโทษทางแพ่งไม่ต่ำกว่า 2 ราย เหตุสร้างราคาซื้อขายหุ้นไม่เป็นธรรม-ผู้บริหารบจ.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหาย ขณะที่เคสใหญ่ "สตาร์ค-มอร์รีเทิร์น-ณุศาศิริ" พร้อมประสานให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พนักงานสอบสวน ชี้ยังดำเนินการตามกระบวนการเต็มที่ ขณะเดียวกันลุยขับเคลื่อน "ความยั่งยืน" สร้างจุดขายประเทศ เพิ่มเสน่ห์ "ตลาดทุนไทย"
- "สรวงศ์" สั่งเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติปี 68 จาก 39 ล้านคน เป็น 40 ล้านคน สู่เป้ารายได้จากต่างชาติ 2.4 ล้านล้านบาท เตรียมร่าง พ.ร.บ.นำโรงแรมผิดกฎหมายทุกรูปแบบเข้าระบบภายใน 1 ปี ก่อนถูกมาตรการ CBAM ของยุโรปเล่นงาน รวมทั้งเจรจานำงานแสดงสินค้าท่องเที่ยวโลก WTM มาจัดในไทย
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในฐานะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เผยถึงการแก้สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่า คาดว่าจะยังไม่นำเข้า ครม.ภายใน 12 พ.ย.นี้ เพราะต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อนว่าการแก้สัญญาครั้งนี้คือ การเปลี่ยนหลักการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน หรือ PPP ที่เคยมีอยู่หรือไม่ เพราะหลักการแก้สัญญานี้เป็นการแก้ไขสัญญา PPP เดิมที่ระบุว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วรัฐค่อยจ่าย แต่ต้องเปลี่ยนหลักการว่าสร้างไปจ่ายไป โดยให้เอกชนนำเงินมาวางค้ำประกัน ดังนั้นต้องดูว่าขัดหลักการของ PPP หรือไม่
- "ดีป้า" เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 3/67 ปรับตัวลดลงจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หวังภาครัฐปรับแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล ผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ออกมาตรการสนับสนุนสินค้าและบริการดิจิทัลไทยภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถสู่ตลาดโลก
- "พิชัย นริพทะพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะประชุมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล-พาณิชย์ พร้อมเกาะติดสถานการณ์การค้า-การลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง กำชับพาณิชย์จังหวัด-ทูตพาณิชย์ทั่วโลก เร่งหาโอกาสด้านการค้า-การลงทุนให้ไทย โดยวันที่ 25-27 พ.ย.นี้ สหรัฐฯ นำทัพนักธุรกิจหารือไทย
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPAXT (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 38.60 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่องบไตรมาส 3/67ที่ มีกำไรเป็นไปตามคาด โดยกำไรปกติไม่รวมรายการพิเศษเติบโต 45% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 4.4% โดยธุรกิจค้าส่งมียอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโต 1.5% ส่วนธุรกิจค้าปลีกในไทยและมาเลเซียมียอดขายสาขาเดิมเติบโต 2.4% และ 4.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากการปรับสัดส่วนสินค้าให้เน้นขายสินค้าที่มีกำไรสูงมากขึ้นและการจัดการสินค้าที่ดีขึ้น สำหรับไตรมาส 4/67คาดว่า CPAXT จะได้รับประโยชน์จากช่วงไฮซีซันของการจับจ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการเงิน 10,000 บาท เราจึงมอง CPAXT เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ดีทั้งในไตรมาส 4/67และปี 2568
- IVL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/67 จะออกมาดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มปิโตรเคมีเนื่องจากไม่มีรายการด้อยค่าสินทรัพย์กดดันเหมือนไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรปกติมีแรงหนุนจากปริมาณขายและ spread ที่ทยอยฟื้นตัว บวกกับค่าใช้จ่ายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจลดลง ส่วนไตรมาส 4/67 น่าจะประคองตัวได้แม้เป็น low season ด้วยผลจากการลดต้นทุน และในปี 68 ถึงจะเผชิญกับภาวะอุสาหกรรมที่ oversupply แต่น่าจะกลับมากำไรได้เพราะผ่านช่วง asset optimization ไปแล้ว ทั้งนี้ตลาดประเมินปี 67 ขาดทุนสุทธิ 1.71 หมื่นล้านบาท และปี 68 พลิกมีกำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท
- GPSC (อินโนเวสท์เอกซ์) มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจาก Bond Yield ที่ปรับตัวลง ขณะที่ไตรมาส 4/67 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY เนื่องจากคาดผลการดำเนินงานของ ADAAVA จะฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงการ COD เต็มรูปแบบของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน และการหยุดดำเนินการที่ลดน้อยลงของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 41 บาท