SET ปิดเช้า 1,460.20 จุด ลดลง 9.52 จุด (-0.65%) มูลค่าซื้อขายราว 26,202 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลงตามหุ้น DELTA รับแรงขายทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นไปร้อนแรงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องออกโรงเตือนP/E สูงเกิน แม้แรงซื้อกลุ่ม Yield Play อาทิ ไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า ประคองไว้ได้บ้างหลัง Bond yield ย่อตัว ช่วงบ่ายคาดว่าตลาดแกว่งออกด้านข้าง ให้แนวรับ 1,458 จุด แนวต้าน 1,470 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า1,460.20 จุด ลดลง 9.52 จุด (-0.65%) มูลค่าซื้อขายราว 26,202 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีแกว่งลง โดยทำระดับต่ำสุด 1,458.34 จุด และสูงสุด 1,474.59 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวลงตามหุ้น DELTA ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ใหญ่ขึ้นมาสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท จากแรงเก็งกำไรดันราคาขึ้นไปมากแล้ว จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องออกมาเตือน P/E พุ่งเฉียด 100 เท่า จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาก่อน และขายไปถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่นๆ
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มอื่นเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และจากที่ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยที่จะมีผล 25 พ.ย.นี้ รวมถึง DELTA ที่เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปอันดับหนึ่งเชื่อว่าจะได้อานิสงส์ไปด้วย อาจมีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาได้ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่ม Yield Play เริ่มฟื้น อาทิ ไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี (Bond Yield) ย่อลงหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยตามคาด ช่วงพยุงภาพรวมดัชนีไม่ให้ลงไปลึก
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดหุ้นโดยรวมจะแกว่งออกด้านข้าง ให้แนวรับที่ 1,458 จุด แนวต้าน 1,470 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,840.06 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,143.38 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,005.04 ล้านบาท ปิดที่ 234.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 884.83 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 791.92 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท