บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) กางแผนธุรกิจ 3 ปี (68-70) เดินหน้าขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย โฟกัสอินโดนีเซียและเวียดนาม จากปัจจุบันที่มีเครือข่ายอยู่ในมาเลเซีย 3 เมือง (กัวลาลัมเปอร์,ยะโฮร์บารู,ปีนัง) สิงคโปร์ 2 จุด ฟิลิปปินส์ (เพิ่งตั้งบ.ย่อย) และ สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายอยู่ในจีนอีก 4 เมืองสำคัญ (เซี่ยงไฮ้ กวางเจา หนิงโป เซิ่นเจิ้น) และ ฮ่องกง
"WICE ยังคงมีความมุ่งมั่นขยายเครือข่ายไปยัง South East Asia โดยมี Target หลัก คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม ที่อยู่ใน Pipeline ของเรา"นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ WICE ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ การขยายตลาดอินโดนีเซียและเวียดนามคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วง 3 ปีนี้ ภายใต้งบลงทุนปีละ 100-200 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น บริษัทจะสร้างการเติบโตจากเครือข่ายที่มีอยู่ให้เกิดการ Synergy ร่วมกันมากขึ้น เพื่อช่วยลดต้นุทนและเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้ามายกระดับ Vulue บริการให้สูงขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น และมีทางเลือกหลากหลายให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะขนส่งในรูปแบบใด ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ ทางรถไฟ หรือ ทางบก (Cross Border) รวมถึงจะมีบริการลักษณะ Multi Model ที่ใช้การขนส่งหลายรูปแบบมาผนวกกัน
บริษัทมีเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้าให้รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี รวมถึงปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้น 20% ต่อปี เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย อย่างกรณีของเวียดนามเศรษฐกิจเติบโตสูงถึงปีละ 5-6% ฟิลิปปินส์ก็เติบโตในระดับ 6% ทั้งสองประเทศมีการส่งออกที่มากกว่าไทย
อีกทั้งการแข่งขันในตลาดอาเซียนไม่ได้รุนแรงเหมือนในประเทศไทย ทำให้บริษัทสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ได้ในระดีบที่สูงกว่าบริการในประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้มาร์จิ้นรวมสูงขึ้น โดยบริษัทวางกรอบไว้ในระดับ 15-20%
สำหรับผลประกอบการในปี 67 นายชูเดช คาดว่ารายได้จะเติบโต 10-15% มาที่ 4 พันล้านบาท เพราะค่าระวางเรือลดลง โดยในไตรมาส 3/67 ค่าระวางเรือปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนในไตรมาส 4/67 เริ่มมีเสถียรภาพอยู่ในระดับทรงตัว
นายชูเดช กล่าววา ธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการความเสี่ยงแต่ละด้านให้เหมาะสม อาทิ อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งบริษัทรับรายได้เป็นสกุลดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีรายจ่ายเป็นเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้เกิดผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
และที่สำคัญ คือ ค่าระวางเรือที่เป็นต้นทุนหลัก สัดส่วนกว่า 60-70% บริษัทต้องเน้นการบริหารแบบเข้มข้น ซึ่งทุกวันนี้ผันผวนตามดีมานด์ซัพพลาย โดยบริษัทได้ทำสัญญากับบริษัทเรือขนาดใหญ๋ไว้บ้างแล้วเพื่อล็อกต้นทุน
ส่วนการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง เชื่อว่าสงครามการค้ากับจีนก็น่าจะกลับมารุนแรงชึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตจีนได้ย้ายฐานการผลิตออกมา และอนาคตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก จึงมองเป็นโอกาสของไทยที่จีนก็จะหันมาส่งออกมายังประเทศแถบอาเซียนากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายเครือข่ายอาเซียน
นายชูเดช กล่าวว่า ตลาดหลักชอง WICE ได้แก่ สหรัฐ จีน อาเซียน กำลังเติบโต โดยสัดส่วนรายได้จากทางเรืออยู่ที่ 30-35% ทางอากาศ 20% ทางบก (Cross Border) ประมาณ 25% ที่เหลือจะมาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ คลังสินค้า การกระจายสินค้า
https://youtu.be/mMRYcxkU6AY