ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,456.99 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.53%) มูลค่าซื้อขายราว 20,073 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยทำระดับต่ำสุด 1,453.99 จุด และสูงสุด 1,465.29 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากหลายปัจจัยกดดัน ทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่า หนุนเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง ผสานกับนโยบาย อเมริกาต้องมาก่อน (America First) ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้เงินทั่วโลกไหลกลับไปที่สหรัฐ ขณะเดียวกันก็มีความกังวลต่อนโยบายการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ดูเหมือนไม่ได้ผล สะท้อนจากเงินเฟ้อ (CPI) ล่าสุด ขยายตัวต่ำ อีกทั้งผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของบริษัทจดทะเบียนไทยก็ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้มีแรงขายกำไรออกมา
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบต่อ จากยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ให้แนวรับไว้ที่ 1,448 จุด และแนวต้าน 1,462 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BH มูลค่าการซื้อขาย 973.51 ล้านบาท ปิดที่ 225.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 947.90 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
WHA มูลค่าการซื้อขาย 690.96 ล้านบาท ปิดที่ 5.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 683.10 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 657.22 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท