นายเว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ร็อคเทค โกลบอล (ROCTEC) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดครึ่งแรกงวดปี 67/68 (1 เม.ย.-30 ก.ย.67) บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงถึง 56% YoY มาอยู่ที่ 154 ล้านบาท โดยยังสามารถสร้างการขยายตัวของอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 10% จาก 8% เป็นผลมาจากความสำเร็จของการจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาภายในบริษัท (in-house R&D)
"รายได้และกำไรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากรายได้ที่แข็งแกร่งของธุรกิจบริการไอซีที โดยเฉพาะงานระบบคมนาคมขนส่ง ในฮ่องกง แม้ว่าจะมีการลดลงตามฤดูกาลของรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาสะท้อนถึงความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจ รวมทั้งการบริหารงานที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการวิจัยและพัฒนาจากภายในบริษัท เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการรักษาลูกค้า โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย.67 ของงบการเงินปี 67/68 บริษัทยังมีโครงการในมือที่ได้รับการยืนยัน (backlog) คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 85% ของประมาณการรายได้ตลอดทั้งปี" นายเว่ย แซม แลม กล่าว
บริษัทตั้งเป้ารายได้ตลอดทั้งงวดปี 67/68 (1 เม.ย.67-31 มี.ค.68) ว่า จะเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน โดยทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไปยังระบบคมนาคมขนส่งในประเทศไทยจากผลงานความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของธุรกิจจากฮ่องกง โดยมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในประเทศไทยให้เทียบเท่ากับที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกงได้
นอกจากนี้ ผลจากการที่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และบริษัทย่อยของ BTS ได้ทำคำเสนอซื้อหุ้นของ ROCTEC จนทำให้ล่าสุด ณ วันที่ 7 พ.ย.2567 กลุ่ม BTS ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ROCTEC เพิ่มขึ้นเป็น 63% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้ว ดังนั้นจึงทำให้ ROCTEC กลายเป็นเป็นบริษัทย่อยของ BTS ซึ่งจะทำให้ ROCTEC ได้รับประโยชน์มากมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
"ประโยชน์ในระยะสั้น เมื่อกลุ่ม BTS ซึ่งเป็นผู้เล่นชั้นนำในภาคการขนส่ง มาเป็นบริษัทแม่ จะทำให้ ROCTEC มีโอกาสเข้าถึงการประมูลโครงการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมากขึ้น และเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการจัดหาเงินทุนที่หลากหลายได้มากขึ้น เพราะได้รับการสนับสนุนจากความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของกลุ่ม BTS กับสถาบันการเงิน ส่วนประโยชน์ที่จะได้ในระยะยาวนั้น จะทำให้ ROCTEC ได้เป็นผู้ให้บริการด้านไอซีทีสำหรับกลุ่มธุรกิจของบีทีเอส ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ ROCTEC ในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย" นายเว่ย แซม แลม กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและลูกค้าปัจจุบันที่ใช้บริการของ ROCTEC อยู่ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.ผู้ประกอบขนส่งมวลชน ได้แก่ ระบบขนส่งทางราง และเครื่องบิน ปัจจุบันมีลูกค้าหลัก เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส, ระบบขนส่งมวลชนทางรางในฮ่องกง (HK MTR), สนามบินนานาชาติฮ่องกง ,รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า(Macau LRT) และการรถไฟขนส่งมวลชนของสิงคโปร์ (SMRT) 2.ผู้ประกอบการด้านสื่อโฆษณา ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ VGI PlanB และ Prowtech 3.หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 4.หน่วยงานเอกชนอื่นๆ