นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ (MPJ) กล่าวว่า งวด 9 เดือนปีนี้ MPJ มีรายได้รวม 745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % จาก 665 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 69.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.70% จาก 58.25 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีตามเป้าหมาย
ในไตรมาส 3 ปีนี้ MPJ มีรายได้รวม 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จาก 237 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากม 234 ล้านบาทในไตรมาส 2/67 และมีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาส 3 ปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาส 2/67
บริษัทมีสัดส่วนรายได้ 43% มาจากธุรกิจขนส่งทางบกตู้คอนเทนเนอร์, 28% มาจากธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์, 26% มาจากธุรกิจเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์ และ 3% มาจากธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า โดย 2 ธุรกิจหลักยังมีรายได้ที่มั่นคง แม้ธุรกิจขนส่งทางบกตู้คอนเทนเนอร์จะลดลง 7% โดยธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์เติบโต 7%
ขณะเดียวกัน ด้านรายได้จากธุรกิจเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์เติบโตสูงถึง 172% เนื่องจากบริษัทได้ขยายแผนกการ ตลาด พร้อมทั้งขยายเส้นทางการให้บริการ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเติบโตสูงถึง 760% จากฐานเดิมที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากการเริ่มรับรู้รายได้ค่าเช่าคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่จังหวัดระยองเป็นไตรมาสแรก
บริษัทยังยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่มีหุ้นที่ไม่ติดไซเลนท์ ยังถือหุ้น MPJ เต็มจำนวนเท่ากับช่วงก่อนหุ้นเข้าซื้อขาย โดยไม่มีการขายหุ้นออกไป เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และ ศักยภาพในการขยายฐานรายได้และกำไรสุทธิของบริษัท โดยบริษัทฯมีแผนจะขยายธุรกิจด้วยการเปิดลานตู้คอนเทนเนอร์แห่งที่ 3 ที่กรุงเทพมหานครในปีหน้า และ ลงทุนสร้างคลัง สินค้าให้เช่าแห่งใหม่ที่ย่านศรีราชาและจังหวัดระยอง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน