บมจ.อีเอ็มซี (EMC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทอนุมัติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 843 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ บริษัท ฮาลิคอนิก แคปปิทอล จำกัด โดยมี นาย Henry Tsai เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.11 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 92 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ราคาปิดอยู่ที่ 0.09 บาท
ทั้งนี้ พันธมิตรต่างชาติจากประเทศไต้หวันจะเพิ่มทุนถือสัดส่วน 6.28% ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพิ่มศักยภาพให้ EMCX ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีหน้า ทั้งนี้ EMC รับเงิน 92 ล้านบาทเข้ามาเสริมสภาพคล่อง และรองรับธุรกิจเดิม และธุรกิจ New S-Curve โดยคาดว่ากลุ่มพันธมิตรใหม่จะนำนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนเอกชนจากไต้หวันและจีนมาต่อยอดธุรกิจให้กับ EMC
นายชาลี จังวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EMC ยังเปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 573.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 400.03 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 0.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 159.75ล้านบาท
ในไตรมาส 3/67 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 228.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 97.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74.38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 217.75 ล้านบาท ปัจจุบัน EMC ยังคงมีงานโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์โรงพยาบาลตากสิน และโครงการก่อสร้างอาคารเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4.84 ล้านบาท และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่และบริการตามสิทธิการเช่า จำนวน 5.43 ล้านบาท
การเติบโตของกำไรสุทธินั้นเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการบริหารภายในองค์กร ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลให้ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 3/2567 ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง EMC ยังได้ดำเนินการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนลงได้อีก 10-20% จากการส่งมอบงานได้เร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงรักษาคุณภาพของงานตามมาตรฐานที่กำหนด
สำหรับโครงการใหม่ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มเติมมูลค่าประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท โดยคาดว่างานเหล่านี้จะถูกบันทึกเป็น backlog ในช่วงต้นปีหน้า มุมมองต่อธุรกิจก่อสร้างในประเทศไทย คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลและอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลดี เกื้อให้ EMC มีโอกาสได้รับงานก่อสร้างมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับศักยภาพและประสบการณ์ของบริษัทในด้านการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่