นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน แรกของปี 67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและบริการ 9,355 ล้านบาท ลดลง 10% แม้ว่าปริมาณการขายถ่านหินรวม 2.96 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจอื่น 558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% แต่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 274 ล้านบาท
งวดไตรมาส 3/67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายและบริการ 2,487 ล้านบาท ลดลง 20% โดยมีปริมาณการขายถ่านหินที่ 0.78 ล้านตัน ลดลง 17 % ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจอื่นอยู่ที่ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% แม้ว่าภาพรวมธุรกิจจะมีการปรับตัวดีขึ้น แต่มีรายการพิเศษซึ่งก็คือผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 50 ล้านบาท ทำให้ในไตรมาสนี้มีผลขาดทุนสุทธิที่ 10 ล้านบาท โดยถ้าไม่รวมรายการนี้จะเห็นได้ว่าผลประกอบการของบริษัทกลับมาเป็นบวกเรียบร้อยแล้ว
สำหรับด้านภาพรวมปี 67 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าปริมาณการขายถ่านหินทั้งปีจะเติบโตใกล้เคียงเป้าหมายที่ 4.5 ล้านตัน
ส่วนกรณีการทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป (Tender Offer) ภายหลังจากเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM จำนวน 292,107,010 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายไตรมาส 4/67 เพื่อการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) พร้อมตั้งเป้าให้ ABM เป็น flagship ทางด้านพลังงานยั่งยืนของกลุ่ม
สำหรับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าเป็นการเริ่มต้นสู่การดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืน พร้อมทั้งตั้งเป้าว่าในปี 73 บริษัทฯ จะมีสัดส่วน EBITDA มาจากธุรกิจยั่งยืน 50% ธุรกิจถ่านหิน 50%
"แผนการเข้าซื้อกิจการของ AGE ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานยั่งยืน โดย ABM ถือเป็นผู้นำในธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล และบริษัทฯ มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจทาง AGE จะเป็นผู้ถือหุ้นใน ABM เป็น 51-70% และถือหุ้นใน ทุนทำดี ที่ร้อยละ 100 ขณะที่ ABM จะเป็นผู้ถือหุ้นใน QTC ที่ร้อยละ 24 และ GRDF ที่100%"