นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 51 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน แต่ในแง่ของกำไรสุทธิยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนาฟทาที่ปรับสูงขึ้นเกือบ 1 พันเหรียญ/ตัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่าเจรจากับลูกค้าเพื่อขอปรับราคาขายผลิตภัณฑ์ หากสรุปได้ใน 1 เดือนจากนี้ ก็จะทำให้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2 พันล้านบาทในปีนี้
"ตอนนี้มาร์จิ้นของบริษัทปรับตัวลดลงจากราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ยังคงอยู่ในระดับเดิมหรือลดลง ขณะที่ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งราคานาฟทาและน้ำมัน เราจึงได้รับผลกระทบทำให้กำไรลดลง โดยจะเห็นได้จากไตรมาส 1 ลดลงถึง 63% เมื่อเทียบกับงวดเีดียวกันของปีก่อน"นายชายน้อย กล่าว
ในช่วงไตรมาส 2/51 คาดว่าส่วนต่างราคาขายผลิตภัณฑ์ (สเปรด)พาราไซลีน-นาฟทา จะปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/51 ที่อยู่ในระดับ 248 เหรียญ/ตัน หลังจากในช่วงเม.ย.ราคาขายพาราไซลีนปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 1,400 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,100 เหรียญ/ตัน
เช่นเดียวกับเบนซีน คาดว่าสเปรดกับนาฟทาจะสูงกว่าไตรมาส 1/51 ที่เฉลี่ย 172 เหรียญ/ตัน เนื่องจากราคาเบนซีนในเดือนส.ค.อยู่ที่ประมาณ 1,245 เหรียญ/ตัน ขณะที่ราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/51 อยู่ที่ 1,031 เหรียญ/ตัน ทำให้เชื่อว่าสเปรดอะโรเมติกส์ในช่วงไตรมาส 2/51 มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของบริษัทด้วย
นายชายน้อย คาดว่า ในปีนี้บริษัทจะมีค่าการกลั่นในระดับ 6-7 เหรียญ/บาร์เรลใกล้เคียงปีก่อน แต่จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินกันว่าปีนี้ราคาน้ำมันอาจสูงถึง 90-100 เหรียญ/บาร์เรลสูงกว่าปีก่อนที่ 70 เหรียญ/บาร์เรลจะส่งผลต่อมาร์จิ้นของบริษัทเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น และยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงได้หรือไม่หลังจากราคาทะลุ 120 เหรียญ/บาร์เรลไปแล้ว แต่บริษัทก็จะพยายามทดแทนโดยการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
"ราคาน้ำมันตอนนี้ไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นในปัจจุบันเป็นการเก็งกำไร มากกว่าเกิดจากความต้องการใช้จริงในโลก และไม่รู้ว่าจะหยุดที่ตรงไหน" นายชายน้อย ระบุ
ส่วนความกังวลว่าจะมีซัพพลายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเข้ามาในตลาดโลกเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนั้น นายชายน้อย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นบางโครงการอาจล่าช้าออกไปเป็นต้นปี 52 จากการประเมินความต้องการใช้อะโรเมติกส์์ในตลาดโลกปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% โดยเฉพาะในเอเชียที่คาดว่าจะเพิ่ม 3.2% จึงยังน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอะโรเมติกส์
นายชายน้อย กล่าวถึงแผนการออกหุ้นกู้ว่า บริษัทคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ได้ในราวเดือนมิ.ย.นี้ หรืออย่างช้าต้นก.ค.โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนงาน ภายใต้วงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท โดยจะนำเงินไปใช้ในโครงการส่วนต่อขยาย และที่เหลือใช้รีไฟแนนซ์
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--