นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปีนี้ บริษัทประสบความสำเร็จสร้างประวัติการณ์เติบโตเร็วและเกินเป้าหมายของปี 67 โดยพอร์ตสินเชื่อโดยรวมเพิ่มเป็น 14,317.2 ล้านบาท เติบโต 15.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 66 ใช้ระยะเวลาเพียง 9 เดือน จากเป้าเดิมพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งปีที่ 14,300 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยจากการเป็นฐานทุนในการประกอบอาชีพทั่วไป โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรมที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ภายใต้แนวคิด "สร้างรากฐาน สร้างงาน สร้างคน" ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อครบในทุกมิติที่เข้าถึงได้ง่าย โดยบริษัทฯ มอบสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่กลับมาทำการเพาะปลูกหรือดำเนินกิจการต่างๆ รวมทั้งใช้เป็นฐานทุนหมุนเวียนหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 608.4 ล้านบาท เติบโต 12.3% ส่วนรายได้รวม 2,294 ล้านบาท เติบโต 13.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถควบคุมอัตราหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
"ศักดิ์สยามลิสซิ่ง มีความแข็งแกร่งในด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจลิสซิ่ง การที่บริษัทสามารถควบคุมอัตราหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมได้ มาจากการที่บริษัทมีกระบวนการคัดเลือกลูกค้าที่เข้มงวด มีระบบติดตามและควบคุมหนี้สินที่มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม" นายศิวพงศ์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 67 บริษัทฯ มุ่งดำเนินการภายใต้แนวคิด "สร้างรากฐาน สร้างงาน สร้างคน" เพื่อส่งเสริมเงินทุนให้กับประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพ โดยจะให้ความสำคัญสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ มุ่งรักษาและเพิ่มคุณภาพหนี้และเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะรุกขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อโซลาร์ รูฟท็อป
นายศิวพงศ์ กล่าวว่า สถานการณ์สินเชื่อช่วงไตรมาส 4 ดีมานด์ของสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรเพื่อใช้เป็นฐานทุนสำหรับการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยบวกหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%ต่อปี ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง โดยพอร์ตสินเชื่อปี 67 จะเป็นการสร้างสถิติใหม่ทะลุเป้าหมาย14,317.2 ล้านบาท เติบโต 15.6%