นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กล่าวว่า อุตสาหกรรมไอทีในประเทศของเรามีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก ทั้งในด้านปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI การยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ที่เข้ามาเสริมการทำงานทั้งในระบบองค์กรและชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ SYNEX ในฐานะดิสทริบิวเตอร์ไอทีอีโคซิสเต็ม เรามุ่งมั่นในการนำเข้าเทคโนโลยีอย่างครบวงจร ที่จะเข้ามายกระดับการใช้ชีวิตของผู้คนให้ง่ายขึ้น โดยในปีนี้ได้ปรับกลยุทธ์ และบุกตลาดที่สร้างโอกาสในการเติบโตมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวให้ทันกับเทรนด์ของนวัตกรรมใหม่ๆ และมั่นใจว่า เป้ารายได้ 40,000 ล้านบาทที่วางไว้ไม่พลาดแน่นอน
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการสูงถึง 30,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,320 ล้านบาท หรือ 12.3% โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159 ล้านบาท หรือ 14.9% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท หรือ 31.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ซินเน็คฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 10,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,392 ล้านบาท หรือ 14.9% มีกำไรขั้นต้น 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท หรือ 16.5 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาสัดส่วนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท หรือ 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.6%
สำหรับภาพรวมรายได้ที่เติบโตอย่างโดดเด่นคือกลุ่มคอมมูมิเคชั่น ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 1,016 ล้านบาท หรือ 27% โดยเฉพาะแรงหนุนจากการเปิดตัว iPhone16 ทำให้กระตุ้นกำลังซื้อได้อย่างดี รวมถึงสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ เช่น Samsung, HONOR, และ Tecno ก็มีการเติบโตของยอดขายเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียล รายได้เพิ่มขึ้น 334 ล้านบาท คิดเป็น 27% ซึ่งมาจากยอดขายสินค้าเพิ่มในงานโปรเจกต์ กลุ่มภาคเอกชน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มกล้องวงจรปิด ด้านระบบและ Storage ด้านกลุ่มเอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ล่าสุดที่ซินเน็คฯ ยกพอร์ตสินค้าออกมาเพื่อที่เราจะโฟกัสมากขึ้น สามารถเดินหน้าสร้างรายได้และกำไรได้ดี โดยเพิ่มจากยอดขาย Software Autodesk และระบบการป้องกันความปลอดภัย เป็นต้น ที่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 267 ล้านบาท หรือ 38%
อย่างไรก็ดี ในส่วนของกลุ่มสินค้าคอนซูมเมอร์ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังในการซื้อของผู้บริโภค และการรอสินค้าคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ที่มีการพัฒนา AI ในสินค้ารุ่นใหม่ๆ บวกกับ สินค้าเกมมิ่ง ไฮไลท์ของพอร์ตอย่างแบรนด์ Nintendo Switch ที่เหล่าเกมเมอร์ต่างรอคอยการเปิดตัวเกมรุ่นใหม่ในปี 2568 ทำให้ซินเน็คฯ เล็งเห็นแนวโน้มกลุ่มคอนซูมเมอร์ที่อาจจะกลับมาดีขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี รวมถึงเป็นไฮซีซั่นของสินค้าไอที มีสินค้าเปิดตัวใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปิดตัว Nintendo Authorized Store by Synnex แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะเข้ามามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขายของแอคเซสเซอรี่และสินค้าที่เกี่ยวข้องได้อย่างน่าสนใจ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตที่มีศักยภาพในอนาคต
และนอกจากการดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้และผลกำไรที่เติบโตอย่างสำเร็จแล้ว ซินเน็คฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบริหารงานบนหลักธรรมาภิบาลที่ดี รวมถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ต่อต้านการทุจริต ดำเนินงานอย่างโปร่งใส ตลอดจนดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าเติบโตได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน