นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจผลการดำเนินงานในปี 68 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 67 โดยคาดจะสามารถมีกำไรได้ต่อเนื่อง จากอานิสงส์ของการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคักมากขึ้น ทำให้โรงแรมในเครือของบริษัทมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงแรมในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ประกอบกับบริษัทมีการควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานในโรงแรม เพื่อทำให้โรงแรมในเครือของบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการขายสินทรัพย์ออกมาต่อเนื่องในปี 68 เพื่อนำเงินมาใช้รองรับการลงทุน และการชำระคืนหนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง โดยที่อยู่ระหว่างการขายสินทรัพย์ในปี 68 ราว 2-3 แห่ง ส่วนหนึ่งจะมีการขายเข้ากองรีท ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาในการจัดตั้งกองรีทกับที่ปรึกษาทางการเงินเช่นเดียวกัน ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนสินทรัพย์เข้ามาต่อยอดการลงทุนใหม่ๆได้ ซึ่งคาดว่ารายได้จากการขายสินทรัพย์ในปี 68 จะเติบโตราว 10%
นอกจากนี้การที่ทิศทางดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ส่งผลบวกต่อราคาขายสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น ทำให้มีโอกาสสร้างกำไรจากการขายสินทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับตัวลดลงตามภาวะดอกเบี้ยที่ลดลง เป็นปัจจัยหนุนต่อการพลิกกลับมามีกำไรได้เป็นครั้งแรกในปี 67 หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาเป็นระยะเวลา 5 ปี
ด้านการลงทุนโครงการใหม่ของบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการกมลา 1 ตั้งอยู่บนหาดกมลา ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะมีกำหนดเปิดบริการในช่วงปี 68 โดยเป็นโรงแรมหรูที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน อีกทั้งอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการสุขุมวิท ซอย 5 ย่านทำเลทองในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ในย่านสุขุมวิท เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเดินทางกลุ่มองค์กร ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 68 หรือต้นปี 69 โดยทั้ง 2 โครงการนี้มีมูลค่ารวมมากกว่า 2 พันล้านบาท
ส่วนแผนการออก ICO บริษัทได้ยื่นแบบคำขอเสนอขาย ICO ในรูปแบบของโทเคนการลงทุนดิจิทัลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนต.ค. 67 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ "โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์" หรือ "Summer Point Token" โดยมี บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด เป็นผู้ออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล เพื่อเป็นทางเลือกในการขายเงินลงทุนผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัล จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 450 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลจากก.ล.ต. โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนไปใช้หมุนเวียนในการพัฒนาโครงการตามแผน ซึ่งคาดว่า ICO ดังกล่าวจะสามารถเสนอขายได้ภายในไม่เกินสิ้นปี 67