นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง (IROYAL) คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 67 จะทำได้ใกล้เคียงกับปี 66 พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปี 568 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยวางแผนการเติบโตในระยะสั้น 1-3 ปี (68-70) ภายหลังได้เงินจากการระดมทุน บริษัทพร้อมมุ่งมั่นขยายงาน และเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อขยายงานเข้าไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น โรงงานปูนซีเมนต์, Oil & Gas, โรงงานปิโตรเคมี, โรงกลั่นน้ำมัน และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ขณะที่ในระยะกลาง 3-5 ปี บริษัทจะให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงแผนร่วมทุน เป็นต้น ซึ่งจะใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ที่มีความเข้าใจในขั้นตอน กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่างๆ นำมาพัฒนากระบวนการทำงานในปัจจุบันของโรงไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้รวม 140 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 104.60 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75% รายได้จากการขายพร้อมติดตั้ง 22.47 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16% และรายได้อื่น 12.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9% ของรายได้จากการดำเนินงาน
บริษัทมีการรับรู้รายได้อื่นจากการให้บริการโครงการที่เพิ่มขึ้นกว่า 391% เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับมีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทั้งการขายแบบ Vendor Managed Inventory (VMI) และการขายสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้าเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าสำหรับทดแทนอุปกรณ์ที่ชำรุดมากยิ่งขึ้น
ขณะที่การทำกำไรสุทธิ 47.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.56% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) 33.68% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 24.11% ผลจากการบริหารต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะทาง หรือ Customize ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยแก้ปัญหาหลักของลูกค้าได้ตรงจุด ยังไม่มีคู่แข่งรายใดสามารถให้บริการได้ในลักษณะเดียวกัน เป็นผลทำให้สามารถสร้างอัตรากำไรได้สูงขึ้น
ณ งวด 9 เดือน บริษัทฯ มีงานที่รอส่งมอบ (Backlog) ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานจากกลุ่มลูกค้า Blue chip อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บจก. ไฟฟ้าหงสา (โรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว) ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ส่วนใหญ่ในปีหน้า
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ด้วยปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ไฟฟ้าและความต้องการด้านงานวิศวกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากอัตราความต้องการใช้ไฟฟ้าและการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า บริษัทฯ จึงคาดว่าจะสามารถขยายแผนงานรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในระบบต่างๆ ของโรงไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม IROYAL เล็งเห็นโอกาสการขยายงานไปยังงานเทคโนโลยีจากแนวโน้มความต้องการนำเทคโนโลยีมาช่วยในกระบวนการทำงานข้างต้น เนื่องจากมีความเข้าใจในขั้นตอน กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่างๆ ที่อาจนำมาพัฒนากระบวนการทำงานในปัจจุบันของโรงไฟฟ้าต่างๆ
ทั้งนี้ IROYAL เตรียมเดินหน้าเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับโรงไฟฟ้า, โครงการระบบ Tunnel Ventilation (ระบบระบายอากาศ) ในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วงใต้, โครงการ Oil and Gas Service, โครงการ Solar System ทำสัญญาแบบ PPA และ โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น