นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียนน้ำมันปาล์ม(APO) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ทำกำไรสุทธิ 46.14 ล้านบาท เติบโต 406.62% และมีรายได้จากการดำเนินงาน 589.03 ล้านบาท เติบโต 43.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยการเติบโตมาจากธุรกิจน้ำมันปาล์ม มีรายได้ 584.14 ล้านบาท เติบโต 43.20% เนื่องจากวางกลยุทธ์ บริหารจัดการซัพพลายในสถานการณ์ที่ปริมาณทะลายปาล์มลดลงตามฤดูกาล ภายใต้โครงการตัดสุก มีสุข (AsianPlus+) ที่มีการคัดเลือกทะลายปาล์มที่มีคุณภาพ ส่งผลให้อัตราในการสกัดน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันปาล์มดิบ โดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น
ความสำเร็จในครั้งนี้ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 ทำกำไรสุทธิ 111.93 ล้านบาท เติบโต 668.67% และมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 1,522.02 ล้านบาท เติบโต 32.45% เมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้หลักมาจากการธุรกิจน้ำมันปาล์ม 1,511.32 ล้านบาท เติบโต 32.10% โดยมาจาก ปริมาณการขายน้ำมันปาล์มดิบ เพิ่มขึ้นเป็น 38,719 ตัน จาก 31,887 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของภาคขนส่ง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราการบริโภคน้ำมันปาล์มในอุตสาหกรรมอาหารที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกำไรขั้นต้นงวด 9 เดือน 74.24 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 197.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้จากการขายน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาขาย น้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้นเป็นหลักประกอบกับมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) สะท้อนให้เห็นถึง ผลสำเร็จจากการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษากำไรขั้นต้นได้ แม้ในภาวะที่ต้นทุนวัตถุดิบหรือทะลายปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น
นายสิทธิภาส กล่าวว่า แผนธุรกิจในไตรมาส 4/67 มุ่งสร้างโมเมนตัมการเติบโต โดยเน้นการบริหารจัดการซัพพลายการจัดซื้อทะลายปาล์มสด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง และรักษากำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบอยู่ในระดับเท่าเดิม รองรับกับดีมานด์ของน้ำมันปาล์มดิบจากการท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลทั้งในและต่างประเทศที่มากขึ้น โดยคาดการณ์ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล สำหรับการใช้เดินทางและในอุตสาหกรรมอาหารจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบคาดการณ์ว่ามีแนวโน้ม จะปรับเพิ่มขึ้นจาก 38 บาทต่อ กก. เป็น 47 บาทต่อ กก.ในช่วงไตรมาส 4/67เป็นไปตามการปรับราคาของตลาดโลกที่มาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น มั่นใจวางแผนกลยุทธ์บริหารซัพพลายแข็งแกร่ง ผลักดันให้รายได้ปี 67 ถึงเป้าที่ 1,800 ล้านบาท เติบโต 20-30%