หุ้น TU ปรับตัวลง 2.88% มาอยู่ที่ 13.50 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 165.47 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. โดยเปิดตลาดที่ 13.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 13.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 13.30 บาท
บล.ดาโอ ระบุ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เจอปัจจัยลบจากข่าวองค์กรปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล Bloom ของฝรั่งเศส และองค์กรสิทธิผู้บริโภค Foodwatch เปิดผลวิเคราะห์ปลาทูน่ากระป๋อง 148 กระป๋องจาก 5 ประเทศในยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลี พบว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีสารปรอท และ 57% มีปริมาณปรอทเกินขีดจำกัดที่ 0.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทำให้ Foodwatch เรียกร้องให้ไม่ใช้ทูน่ากระป๋องเป็นวัตถุดิบทำอาหารในโรงพยาบาล โรงอาหารของโรงเรียน บ้านพักคนชรา และหอผู้ป่วยหลังคลอด ขณะที่ Bloom เปิดเผยเพิ่มเติมว่าชาวยุโรปโดยเฉลี่ยบริโภคปลาทูน่ามากกว่า 2.8 กิโลกรัมต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นปลากระป๋อง ซึ่งกระบวนการบรรจุกระป๋องทำให้มีปริมาณปรอทเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า เมื่อเทียบกับปลาสด
มองเป็น sentiment ลบต่อ TU เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนยอดขายราว 30% จากภูมิภาคยุโรป ขณะที่เราคาดการณ์ว่าอย่างน้อยราว 50% มาจากธุรกิจอาหารทะเลกระป๋อง (Ambient seafood) เบื้องต้นเราประเมินกรณีที่รายได้ธุรกิจ Ambient seafood ในยุโรปได้รับผลกระทบและปรับตัวลงทุกๆ -10% จะกระทบกำไรโดยรวมราว -2% โดยการออกมาเตือนขององค์กร NGOs อาจส่งผลกระทบต่อ sentiment ของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวยังเป็นเพียงความเห็นขององค์กรอิสระ
ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปกติปี 67/68 ที่ 5.3 พันล้านบาท/5.6 พันล้านบาท (+6% YoY/+6% YoY) คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท อิง SOTP