ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 5.86 จุด หลังน้ำมันพุ่ง

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดท้ายสัปดาห์ที่คึกคักด้วยการร่วงลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นได้บดบังข่าวดีเรื่องตัวเลขการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย
          นักลงทุนที่กำลังหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และกำลังมองหาสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดบ้านและที่อยู่อาศัยกำลังจะไปถึงจุดต่ำสุด ได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการ เมื่อกระทรวงพาณิชย์รายงานข้อมูลการสร้างบ้านเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นถึง 8.2%
          แต่ก็มีปัจจัยลบมาเบี่ยงเบนนักลงทุนในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์เกือบตลอดทั้งวัน หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 127.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งได้ก่อให้เกิดความหวั่นวิตกถึงผลกระทบของราคาน้ำมันที่มีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ 
          โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ลดลงเหลือ 59.5 ซึ่งเป็นค่าที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2523 ชี้ให้เห็นว่าราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกำลังมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้บริโภค 
          สตีฟ เนเมธ ผู้จัดการพอร์ทการลงทุนจากเอไอจี ซันอเมริกา กล่าวว่า นักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอาจไปสกัดกั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
          "แม้ว่าตัวเลขการสร้างบ้านที่เปิดเผยในวันนี้จะออกมาเป็นบวก แต่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนค่อนข้างแย่ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ราคาพลังงานและโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังเป็นสาเหตุให้นักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในไตรมาสสองตามที่คาดไว้ในตอนแรก"
          อย่างไรก็ดี แม้ปัจจัยลบด้านราคาน้ำมัน แต่หุ้นก็เดินหน้าคึกคักในสัปดาห์นี้ 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับลง 5.86 จุด หรือ 0.05% แตะระดับ 12,986.80 จุด โดยตลอดสัปดาห์ดาวโจนส์เดินหน้าขึ้น 1.89% 
          ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ 0.13% แตะระดับ 1,425.35 จุด และเพิ่มขึ้น 2.7% ตลอดสัปดาห์ ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 4.88 จุด หรือ 0.19% แตะระดับ 2,528.85 จุด แต่ตลอดสัปดาห์ดัชนีกระโดดขึ้น 3.41% ซึ่งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.74 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสบดีที่ 3.73 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 7