หุ้น CPF บวก 1.23% มาอยู่ที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 145.22 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 24.30 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เรามีมุมมอง "Slightly positive" ต่อข้อมูลที่ได้รับจากงานประชุมนักวิเคราะห์ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เนื่องจากผู้บริหารให้มุมมองราคาเนื้อสัตว์/ต้นทุน และกลยุท์ 4Q67 และปี 68 ชัดเจนมากขึ้น โดยมองราคาสุกรไทยเพิ่มขึ้น ราคาสุกรเวียดนาม-จีนทรงตัว ขณะที่ราคาไก่มีแนวโน้นอ่อนตัวเล็กน้อย ส่วนต้นทุนยังคาดลดลงต่อ และเน้นกลยุทธ์จำหน่ายสินค้าแปรรูปเพิ่ม
ทั้งนี้ เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้น +16% แต่ปรับประมาณการปี 68 ลดลง -3% เพราะคาดบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพลดลง เนื่องจากแนวโน้มราคาสุกรไทย-เวียดนามผันผวนน้อยลง โดยยังคงคำแนะนำ Buy ปรับราคาเป้าหมายปี 68 ลงเป็น 30.00 บาท (เดิม 31.00 บาท)
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุ CPF รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 7.3 พันล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 1.8 พันล้านบาทใน 3Q66 และเติบโต +6%QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไรจากการตีมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ) จะมี core profit เท่ากับ 6.65 พันล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุน 3.5 พันล้านบาทใน 3Q66 ซึ่งเป็นไปตามคาดของตลาด การฟื้นตัวมาจากราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ มาร์จิ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมดีขึ้น ส่งผลให้ net profit margin งวด 3Q67 เพิ่มเป็น 4.7% จาก -2.4% ใน 3Q66 และ 3.9% ใน 2Q67
ราคาหมูในประเทศเดือนพ.ย.67 ยังคงสูงที่ 72 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงของบริษัทอยู่ที่ 63 บาท/กก. ส่วนราคาไก่ในประเทศอ่อนลงเป็น 37 บาท/กก. ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง สำหรับต้นทุนการเลี้ยงไก่ของตลาดอยู่ที่ 37-38 บาท/กก.
ราคาหมูในเวียดนามอ่อนลงเป็น 6.17 หมื่นดอง/กก. จาก 6.3 หมื่นดอง/กก.ใน 3Q67 เพราะมีโรคระบาด ASF ในพื้นที่หลังน้ำท่วม ฟาร์มรายเล็กการขายดัมพ์ราคาออกมา
ราคาหมูในจีนอ่อนตัวลงเป็น 17.4 หยวน/กก. (จาก 19.5 หยวน/กก.ใน 3Q67) แต่ยังสูงกว่าต้นทุนการเลี้ยงของตลาดที่ 14-15 หยวน/กก. หลังจากอุปทานเพิ่มขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดและราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง
คาด core profit 4Q67 อ่อนลง QoQ จากราคาหมูในเวียดนามและจีนอ่อนตัวลง ราคาไก่ในประเทศลดลง QoQ แต่กำไรยังดีขึ้น YoY
แนวโน้มปี 68 ผู้บริหารคาดว่าราคาหมูในประเทศจะอยู่ที่ 72-73 บาท/กก. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 68-69 บาท/กก.ในปี 67 เพราะอุปสงค์เพิ่มขึ้นและอุปทานในตลาดน้อยลง หลังมีน้ำท่วมและโรคระบาด ASF รวมถึงจำนวนฟาร์มขนาดเล็กน้อยลง ทาง CPF มีแผนจะเพิ่มกำลังการเลี้ยงหมูจาก 6.5 ล้านตัวเป็น 7 ล้านตัวในปี 68 ด้านต้นทุนวัตถุดิบปี 68 ผู้บริหารคาดว่าจะลดลง 4-5% YoY จากปริมาณผลผลิตที่สูงขึ้นและปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนผ่อนคลายลง
แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 27.50 บาท อิงกับ P/BV ปี 68 ที่ 0.86 เท่า (Mean 5 ปี) ทั้งนี้ประมาณการของเราอนุรักษ์นิยมกว่าเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนมาก