สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย (วันที่ 18 พ.ย.2567) มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 75,800 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 14,791 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 1,420 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 288 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.21% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนของ นักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 292 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 292 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยในประเทศ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศป ระจำไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3.0% จากตลาดคาด 2.4-2.7% ปัจจัยหลักมาจากการผลิต ภาคนอกเกษตรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกลุ่มบริการ และการลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 68 จะขยายตัว 2.3-3.3% (ค่ากลาง 3.0%) ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 67 ด้านปัจจัยต่างประเทศ ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก แถลงว่าเฟดอาจจะปรับลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในปีนี้ และลดลงอีก 1% ในปีหน้า
ตลาดตราสารหนี้ไทย 18-11-2024 %Change มูลค่าการซื้อขาย 75,800.32 ลบ. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน 2.14 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี 2.14 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี 2.21 % 0.00 % มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร) (วันที่ 18 พ.ย.2567) ประเภทตราสาร ล้านบาท %Change ตั๋วเงินคลัง 22,487.25 +212 % พันธบัตรรัฐบาล 22,160.36 -10 % ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล 0.00 n/a พันธบัตร ธปท. 24,859.79 +7 % พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 0.00 -100 % หุ้นกู้เอกชน 3,741.13 +4 % พันธบัตรต่างประเทศ 3.80 n/a หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า