น.ส.วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 68 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ที่มีแนวโน้มทะลุเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ในช่วงการวางแผนธุรกิจปีหน้าคาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ในเดือนธ.ค.นี้ โดยหลักยังคงมาจากธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน , ธุรกิจหลักทรัพย์ ดำเนินธุรกิจผ่าน บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) และ Digital Asset
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในปีหน้าวางเป้ามูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) เติบโตราว 20% จากปีนี้คาดอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากแผนออกกองทุนใหม่ราว 3-4 กองทุน ทั้งการออกกองทุนด้วยตัวเอง และกอง FIF (Foreign Investment Fund) ประกอบด้วย Fixed Income Fund, Equity Fund, และ Private Asset โดยยังคงมุ่งไปที่ตลาดในต่างประเทศ เช่น สหรัฐ อินเดีย จีน เป็นต้น
ธุรกิจหลักทรัพย์ (บล.) ยังคงขึ้นอยู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า โดยมองว่าตลาดยังมีความกังวลในเรื่องของการดำเนินนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในมุมใดบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังประเมินสถานการณ์ได้ค่อนข้างยาก
ด้านธุรกิจ Digital Asset ในปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นปีที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาคึกคัก จากแรงหนุนของนายทรัมป์ ที่มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน และภาครัฐยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการโอนโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ทำให้บริษัทเตรียมจะออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) โดยปัจจุบันมีงานในมือแล้ว 3 ดีล คาดว่าจะสามารถทยอยออกเสนอขายได้ในไตรมาส 1/68
นอกจากนี้ บริษัทจะยังเติบโตจากรายได้ดอกเบี้ยรับอานิสงส์หนี้ที่อยู่ในระบบสูง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อยากขึ้น ทำให้เป็นโอกาสของบริษัทในการปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกันธุรกิจ XSpring AMC บริษัทบริหารสินทรัพย์ในเครือ XPG วางเป้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารที่ 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตของพอร์ต ที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 4,000-5,000 ล้านบาท