นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) คาดว่า ในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67 - ก.ย.68) จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT รวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
"AOT คาดว่างวดปี 68 ผู้โดยสารยังเป็นขาขึ้นจากที่มีตัวเลขผู้โดยสารใน Winter แข็งแกร่ง รายได้ทั้ง Aero และ Non Aeroขึ้นกับปริมาณผู้โดยสาร ...เรายังค่อนข้างมั่นใจที่ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลโดยตรงกับนักท่องเที่ยวยังไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดที่น่ากังวล" นายกีรติ กล่าว
นายกีรติ กล่าวว่า จากประมาณการการจราจรทางอากาศของปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะเห็นว่าตัวเลขผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 (29 ธ.ค.67 - 4 ม.ค.68 ) ประมาณ 2.86 ล้านคน ฟื้นตัว 92.9% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธ.ค.62- 4 ม.ค.63) แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.83 ล้านคน ฟื้นตัว 95.3% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 1.03 ล้านคน ฟื้นตัว 88.8%
ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 17,410 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 97.5% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธ.ค.62- 4 ม.ค.63) แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 10,370 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 102% หรือฟื้นตัวเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 7,040 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 91.6%
นายกีรติ ยังกล่าวว่า เที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโตแข็งแกร่งในงวดปี 67 และจะดีต่อเนื่องในปี 68 เพราะสายการบินมีเที่ยวบินต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหลักที่ขนส่งผู้โดยสารต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในไทย แต่นักท่องเที่ยวจีนฟื้นกลับมา 76% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด (ปี 62) แต่มองว่าในปี 68 ผู้โดยสารจีนยังเป็นขาขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดีย เข้ามาสูงขึ้น 30% จากช่วงก่อนโควิด เป็นผลจากมาตรการฟรีวีซ่า รวมถึงไต้หวันก็เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย สหรัฐ เกาหลีใต้ ยุโรป เข้ามาเพิ่มขึ้น ยกเว้นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ลดลง จากปัญหาเงินเยนอ่อนค่า
นายกีรติ กล่าวว่า AOT อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะมีความชัดเจนไม่เกินเดือน เม.ย.68 จะพิจารณาว่า ยังจำเป็นต้องสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (West Expansion)หรือไม่ ที่จะเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักเป็น 5.6 แสนตร.ม. โดยจะต้องพิจารณาความต้องการทั้ง Air side และ Land side ด้วย
เนื่องจาก AOT ได้ขออนุมัติจากครม.แล้วที่จะลงทุนก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion) ซึ่งพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.8 แสนตร.ม. ซึ่งออกแบบรายละเอียดแล้ว พร้อมที่จะดำเนินการได้ ทั้งนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็น 80 ล้านคน/ปี คาดว่าจะเปิดประมุลในเดือน ก.พ. 68
และมีแผนงานจะสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ที่จะรองรับผู้โดยสารได้อีก 70 ล้านคน/ปี จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้ถึง 150 ล้านคน/ปี
ทั้งนี้ AOT มีแผนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยาน บริษัทวางงบลงทุน 1.96 แสนล้านบาทในช่วง 10 ปี (68-78)
- โครงการส่วนต่อขยายด้านตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion) วงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท AOT จะดำเนินการเปิดประมูลในเดือน ก.พ.68 และคาดจะรู้ผลและเซ็นสัญญาได้ไม่เกินเดือน พ.ค. 68 คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 68 และจะแล้วเสร็จในปี 71
- โครงการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท คาดจะเปิดประมูลกลางปี 68 และเริ่มก่อสร้างในปลายปี 68 คาดแล้วเสร็จในปี 72
- โครงการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปลายปี 68 จะแล้วเสร็จในปี 72
- โครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 69 จะแล้วเสร็จในปี 72
- โครงการอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Termianl) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท คาดจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 70 คาดแล้วเสร็จในปี 75
นอกจากนี้ AOT เตรียมออกทีโออาร์ในการคัดเลือกผู้ประกอบการโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง รายที่ 3 และโครงการให้บริการคลังสินค้า (คาร์โก้) รายที่ 3 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่เกินเดือน ม.ค.68 คาดรู้ผลในเดือนมี.ค. 68
นายกีรติ ยังกล่าวว่า ปัจจุบัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน/ปี ขณะที่คาดว่าจำนวนผู้โดยสารในปี 68 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะใกล้เคียง 65 ล้านคน เพิ่มจากปี 67 มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน ดังนั้นในระหว่างที่รอการก่อสร้าง East Expansion ที่จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 15 ล้านคนนั้น AOT พบว่าปัญหาคอขวดและทำให้สนามบินคับคั่งเป็นส่วนอาคารผู้โดยสาร ที่จะเป็นส่วนที่ใช้เช็คอิน ตรวจค้น และ ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง) ดังนั้นจะเพิ่มจุด Self-Check in , Self-bag drop ติดตั้งระบบ Biometric ระบบ ตม.อัตโนมัติ เพื่อทำให้กระบวนการเร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบน คิว ตม.เร็วขึ้น เป็น 7,200 คน/ชั่วโมง จากเดิม 5,500 คน/ชั่วโมง ทั้งนี้จะช่วยให้ยังใช้เทอร์มินัลหลักจนกว่าจะก่อสร้าง East Expansion แล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ให้ผู้โดยสารพักคอยก่อนขึ้นเครื่องไม่ได้มีปัญหา เพราะจากที่เปิดใช้อาคาร SAT1 ในปี 66 ได้มารองรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
https://youtu.be/fZWKzQo544w