ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงไปแล้วกว่า 10 จุด รับแรงเทขายหุ้นใหญ่กดดัน ส่วนหนึ่งลดความเสี่ยงจากการประกาศ GDP ไตรมาส 3/67 และดัชนี PCE ของสหรัฐคืนวันนี้ รวมถึงตลาดยังมีความกังวลนโยบายของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าโลก
เมื่อเวลา 10.55 น.ดัชนี SET มาอยู่ที 1,427.87 จุด ลดลง 10.38 จุด (-0.72%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ดัชนี SET ภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด โดยที่แรงกดดันมาจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน โรงพยาบาล แบงก์ สื่อสาร และค้าปลีก โดยคาดว่าจะมาจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติ เพื่อลดความเสี่ยงรอติดตามการรายงานจีดีพี ไตรมาส 3/67 ของสหรัฐ และการรายงานดัชนี PCE เดือนต.ค.ของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งมีผลต่อการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ประกอบกับราคาน้ำมันปรับลดลงหลังอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาหนุนดัชนี และยังมีความกังวลต่อนโยบายของนายทรัมป์ ที่กลับมาทำสงครามการค้าอีกครั้ง วานนี้ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าจีน แม็กซิโก และแคนาดา ทำให้ภาพของดัชนีเป็นการพักตัว
โดยให้แนวรับ 1,420 จุด แนวต้าน 1,440 จุด