ความร้อนแรงของหุ้น บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ที่ดีดตัวขึ้นมาถึงจุดสูงสุดที่ 10 บาทในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็น +100% จากราคา 5 บาท ทำให้มูลค่าทางการตลาด (Market Cap) ของหุ้นตัวนี้ใหญ่ถึง 1 แสนล้านบาท จึงมีการคาดการว่าหุ้น CCET อาจจะได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นในดัชนี SET50
ถ้าดูตามเกณฑ์ CCET อาจจะยังตกเกณฑ์ของรอบ H1/68 เพราะหลักเกณฑ์การเข้า SET50 จะดู Market Cap ย้อนหลัง 12 เดือนในการคัดกรองหลักทรัพย์เพื่อเข้าดัชนีในแต่ละรอบ
อย่างไรก็ตาม หาก CCET สามารถรักษา Market Cap และสภาพคล่องในกระดานให้อยู่ระดับนี้ไปได้เรื่อยๆ ก็ไม่ยากที่เราจะเห็น CCET เข้า SET50 Index ในอนาคต
การเข้า SET50 มีผลแค่ไหน?
ดัชนี SET50 ถือเป็นดัชนีที่ใช้อ้างอิงผลประกอบการของตลาดหุ้นไทยอย่างแพร่หลาย และยังเป็นดัชนีที่สามารถเทรดได้ เนื่องจากมี Product ทางการเงินที่อ้างอิงกับ SET50 ไม่ว่าจะเป็นกองทุน Passive Fund สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) DWs หรือ ETF อย่าง TDEX เป็นต้น
สำหรับ Market Cap ของดัชนี SET50 ตอนนี้อยู่ที่ 12.7 ล้านล้านบาท หาก CCET ถูกคัดเลือกให้เป็นหุ้นใน SET50 รอบถัดไป(H2/68) จะมีสัดส่วนของดัชนีอยู่ที่ 0.8%
กองทุน Passive Fund ที่อ้างอิง SET50 ในไทย มีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท หาก CCET ได้รับการคัดเลือกเข้า SET50 ก็จะมีการ Rebalance Index เกิดขึ้น ซึ่งเทียบกับมูลค่าเม็ดเงินที่ Track SET50 หุ้น CCET ก็อาจจะเห็น Inflow ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการเทรดรายวัน
โดยการเข้า SET50 ถึงแม้ตัวเลขเม็ดเงินจากกองทุน Passive Fund จะมีการเข้ามาซื้อเพียง 600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับมูลค่าซื้อขายรายวันของหุ้นตัวนี้ก็อาจจะดูไม่เยอะมาก แต่การเข้ามาใน SET50 ก็เป็นเหมือนตราประทับว่าหุ้นตัวนี้ผ่านการคัดกรองให้เป็นหุ้น 50 ตัวแรกที่สามารถสะท้อนภาพรวมของตลาดไทยได้ดี ทำให้นักลงทุนสถาบันที่อาจจะมีข้อจำกัดของการลงทุนที่รัดกุม อย่างเช่น ไม่ลงทุนในหุ้นนอก SET100 หรือ SET50 เข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนี้ได้
ดังนั้น การเข้า SET50 ด้วยเม็ดเงินของ Passive Fund แล้วอาจจะมีได้ผลต่อราคาหุ้นมากนัก แต่การได้รับคัดกรองให้เป็นหุ้นที่สะท้อนตลาดไทยได้ดี จะสามารถช่วยขยายฐานของกลุ่มนักลงทุนที่สามารถซื้อขายหุ้นตัวนี้ได้ ถือเป็นการสร้างสภาพคล่องให้กับหุ้นไปในตัว
การคาดหวังว่าหุ้น CCET จะเข้าใน SET50 รอบ H1/68 อาจจะไม่ทัน คงต้องเลื่อนออกไป จึงเป็นที่มาของราคาหุ้นที่ร่วงลงมา -20% เหลือประมาณ 8 บาท อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ส่วนจะเป็นปัจจัยเรื่องผลประกอบการไตรมาส 4/24 หรือ แนวโน้มปี 68 ที่ทำให้ราคาหุ้น CCET ลงมาหรือเปล่านั้น ก็ไม่อาจทราบล่วงหน้าได้
แต่เท่าที่ทราบ กลุ่มคนที่ลากหุ้น CCET ขึ้นมาจากต่ำกว่า 5 บาท ขึ้นไปทำจุดสูงสุด 10 บาท มีกำไร 100% แบบนี้คงไม่ต้องถามว่า บุคคลเหล่านั้นจะยืนดูราคาหุ้นไหลลงมาโดยไม่ Action เลยหรือ?
ส่วนใหญ่ราคาหุ้นมักจะฉายภาพล่วงหน้าและเป็นภาพที่นักลงทุนทั่วไปไม่ทราบ มีแต่การคาดเดา จนกว่า "คำตอบจริงจะเฉลย" เมื่อถึงตอนนั้นก็อาจจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว!
ธิติ ภัทรยลรดี