SET ปิดวันนี้ 1,428.01 จุด ลดลง 2.39 จุด (-0.17%) มูลค่าซื้อขาย 35,695.46 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งกรอบแคบในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำจุดต่ำสุด 1,421.96 จุด และจุดสูงสุด 1,433.61 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 245 หลักทรัพย์ ลดลง 234 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 183 หลักทรัพย์
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน และปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นเป็นกลุ่มส่งออกที่ได้รับปัจจัยบวกภาพรวมการส่งออกไทยดีกว่าคาด โดยเฉพาะ กลุ่มยาง STA, STGT และกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ส่วนกลุ่มที่มีแรงขายออกมา เป็นกลุ่มที่นักลงทุนกังวลเรื่อง ESG ได้แก่ TOP, OR อีกทั้งมีแรงขาย SCC, SCGP จากแนวโน้มผลการดำเนินงานยังไม่ฟื้นตัว
ส่วนปัจจัยนอกประเทศ ยังเป็นเรื่องเดิมที่กังวลสงครามการค้ากลับมาปะทุอีกครั้งหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมานั่งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดคาดว่าจะล่าช้ากว่าเดิม
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดยังอยู่ในช่วงพักตัว โดยคืนนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องจากวันขอบคุณพระเจ้า จึงไม่น่าจะมีประเด็นใหม่ๆ และพรุ่งนี้มีการประชุม ครม.สัญจรต้องติดตามว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่
ให้แนวรับที่ 1,420 จุด แนวต้าน 1,440 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,409.07 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,602.73 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,578.87 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,393.32 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,236.01 ล้านบาท ปิดที่ 286.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท