นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งออกด้านข้าง ไร้ปัจจัยใหม่มีผลต่อดัชนี โดยนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และอัตราการว่างงานของสหรัฐ ในคืนนี้ เพื่อประเมินทศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธ.ค.
ขณะที่การประชุม โอเปกพลัส (OPEC+) เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) มีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันออกไปอีก 3 เดือนจนถึง เม.ย. 68 จากเดิมที่จะเลื่อนในเดือนม.ค. 68 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด และมองว่าภาวะตลาดน้ำมันยังอยู่ในภาวะ Oversupply ดังนั้นประเด็นดังกล่าวอาจไม่ได้เป็นแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน
สำหรับตลาดหุ้นไทยระยะสั้นมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากเม็ดเงินนักลงทุนสถาบันในประเทศที่เริ่มซื้อสุทธิมากขึ้นในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังเป็นภาพซื้อสลับขาย ทั้งนี้นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,445 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด