ท่ามกลางตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเมืองไทยที่ผู้ประกอบธุรกิจต่างมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ที่เห็นชัดเจนสุดก็คือธุรกิจ Exchange ที่ทุกคนรู้ดีว่าคือธุรกิจที่มีรายได้มากที่สุด วันนี้ Maxbit พร้อมแล้วที่จะชิงเค้กส่วนแบ่งการตลาด ด้วยแผนการรุกตลาดลูกค้ารายย่อย (Retail) หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากกลุ่มลูกค้าตลาด Wealth (High Net Worth Equity)
นายปกเขตร รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit) ได้เปิดเผยข้อมูลการเทรดที่น่าสนใจ จากการเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมี.ค.67 ที่มียอดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 300 กว่าล้าน จนปิดเดือน ต.ค.67 มียอดขาย 3,000 กว่าล้าน ซึ่งนับว่าเติบโตกว่า 10 เท่า และคาดว่าในเดือน พ.ย. จะมียอดการซื้อขายมากกว่า 5,000 ล้านบาท
ด้วยจุดแข็งที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว ภายใต้คอนเซปต์ Let?s Cocreation ทำให้ผู้ให้บริการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายนี้สามารถปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ (Feature) การใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ตรงกับความต้องการของลูกค้า
*แผน Synergy กับ PTG ต่อยอดธุรกิจใหม่ สินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง
ผู้ที่ใช้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มของ Maxbit จะได้รับ Max Point ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับฐานลูกค้าของ PTG และระบบ MaxCard ซึ่งในอนาคตจะสามารถนำคะแนน (Point) ตรงนี้ไปชำระเงินใน PTG Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นกาแฟพันธุ์ไทย หรือใช้เป็นส่วนลดในการเติมน้ำมัน ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับบริษัทแม่และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ต่อไป
*ปี 2568 ปีแห่งความบ้าคลั่งของสินทรัพย์ดิจิทัล
หลังจากที่ Donald Trump ได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และจะเข้ามาบริหารประเทศในปี 2568 อย่างเต็มตัว และด้วยนโยบายของ Donald Trump ที่มีการส่งเสริมคริปโทฯ ค่อนข้างมาก นับเป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดัน ส่งผลต่อ Market Sentiment ในเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาและปริมาณการซื้อขายอย่างชัดเจน
ในขณะนี้ที่ตลาดเป็นขาขึ้น อยากให้นักลงทุนมีวินัย ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและ Take Profit ตามแผนการที่วางไว้ พร้อมทั้งบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม
https://youtu.be/CEaft_B7P4o