โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) จากแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/67 ดีขึ้นหลังเห็นสัญญาณบวกจากไตรมาส 3/67 จากการเริ่มมีการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น รวมทั้งไตรมาส 4/67 ยังได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาล และการกลับมาเปิดห้างในส่วนของเซ็นทรัลชิดลม และห้าง Rinascente Milan ที่อิตาลี ที่จะเพิ่มยอดขายให้กับ CRC ได้หลังรีโนเวท นอกจากนี้ยังอัพไซด์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาใช้ช่วงปลายปี
ราคาหุ้น CRC ปิดเช้า อยู่ที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.74%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ฟินันเซีย ซื้อ 42.00
หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 41.00
เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ซื้อ 40.00
อินโนเวสท์ เอกซ์ ซื้อ 39.00
เคจีไอ ซื้อ 36.00
นักวิเคราะห์จาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่าผลประกอบการของ CRC น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเห็นสัญญาณบวกจากไตรมาส 3/67 ที่เริ่มมีการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/67 น่าจะถึงจุดสูงสุดของปีนี้ ถือว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มค้าปลีกจากการที่น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะถัดไป
เรามีมุมมองเชิงบวกของ CRC ในประเด็นแรก คือเรื่องของผลประกอบการไตรมาส 3/67 ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยไตรมาส 3/67 บริษัทมีกำไรปกติ 1.6 พันล้านบาท เติบโต 24% YoY เพิ่มขึ้น 4% QoQ และสูงกว่าประมาณการ 20% ปัจจัยบวกจากการคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายสินค้าล้าสมัยลดลง มีการบริหารจัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ที่ทำให้สูญเสียค่าใช้จ่ายลดลงในขณะที่ยังคงได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอยู่ และบริษัทประหยัดค่าเช่าจากการซื้อที่ดินไทวัสดุแทนการเช่า ยอดขายเติบโตจากการขยายสาขา แม้ยอดขายสาขาเดิม (SSS: same store sales) จะหดตัว
นอกจากนี้ภาพกำไรในไตรมาส 4/67 น่าจะทำจุดสูงสุดของปี โดยเติบโตขึ้น YoY และการเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่ยังคงมีการเติบโตจากการขยายสาขา การคุมค่าใช้จ่ายที่น่าจะทำได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง SSS ที่น่าจะมีสัญญาณบวกที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาจากการที่บริษัทจะมีการรีโนเวทสาขาที่เป็น Flagship Store และ Department Store คือเซ็นทรัลชิดลมเสร็จ และที่ Rinascente มิลาน อิตาลี ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนให้ SSS ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
ปัจจุบันในไตรมาส 4/67 เราประเมิน SSS ของบริษัทยังคง -2% แต่ดีกว่าไตรมาส 3/67 ที่ -3% และบริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อผลของการรีโนเวท รวมทั้งปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาตรการภาครัฐที่ออกมาและ Sentiment ที่ดีขึ้น น่าจะดึงให้ SSS ของบริษัทน่าจะฟื้นตัวได้ปลายปีนี้
ประเด็นสุดท้าย อัพไซด์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่า CRC เป็นตัวแทนกลุ่มค้าปลีกที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการใหม่ หากมองถึงมาตรการที่จะออกมาในอนาคตที่เป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภค เราก็คาดหวังว่าจะเห็นมาตรการในการลดหย่อนภาษีในการซื้อสินค้าและบริการที่มักมีการอนุมัติในช่วงปลายปี ซึ่งมาตรการที่ออกมาล่าสุดช่วงต้นปี 67 เสริมยอดขายให้ CRC มากที่สุดในกลุ่ม ส่งผลให้ SSS เพิ่มขึ้น 2% YoY ให้คำแนะนำ Outperform ด้วยราคาเป้าหมาย 39 บาท
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มไตรมาส 4/67 กำไรเติบโต QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล แต่ sssg ยังติดลบ 1-3% YoY แต่น้อยลงกว่า ไตรมาส 3/67 ที่ -3% YoY อย่างไรก็ดีฐานกำไรปกติไตรมาส 4/66 สูงเพราะในปีก่อนมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้การเติบโต YoY ของกำไรปกติค่อนข้างท้าทายแต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้หากยอดขายฟื้นตัว ช่วงปลายไตรมาสและมีการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ที่ดีกว่างวด 9 เดือนปี 67
ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 67 คิดเป็น 72% ของประมาณการปี 67 ของเราที่คาดกำไรปกติ 8.2 พันล้านบาท (+2% YoY) ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 เติบโต QoQ ทำให้เรายังคงประมาณการ
คงคำแนะนำ "ซื้อ" อิงราคาเหมาะสม 41.00 บาทต่อหุ้น จากผลประกอบการที่ดีกว่าคาดมีโอกาสทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้ดี เราคาดกำไรปกติจะเริ่มกลับมาเติบโต YoY ได้ต่อเนื่องในปี 68
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่ากำไรของ CRC จะเติบโตได้ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/67 ปัจจัยหนุนจากปัจจัยทางฤดูกาล ที่เป็นช่วงจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ในไตรมาส 4/67 จะมีการกลับมาเปิดห้างในส่วนของเซ็นทรัลชิดลมและห้าง Rinascente Milan ที่อิตาลี จะเป็นส่วนที่เพิ่มยอดขายให้กับ CRC ได้ เรามองบวกในกำไรไตรมาส 4/67 และต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าด้วย
นอกจากนี้จากบทวิเคราะห์ของบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่าเราเห็นสัญญาณบวกจากกำไรหลักไตรมาส 3/67 สูงกว่าคาดการณ์ของเราและตลาด 33% และ 27% จากการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ที่ดี ขณะที่แนวโน้มกำไร 2568 ขยายตัวอีก 13.5%YoY เด่นกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ขยายตัว 10.6%YoY โดยแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 40 บาท