นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยนักลงทุนรอติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือน พ.ย. ในคืนนี้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาด wait & see ไปก่อน
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) คาดเพิ่มขึ้น 0.3% MoM และ 2.7% YoY ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) คาด 0.3% MoM และ 3.3% YoY ซึ่งคาดการเปิดเผยตัวเลขคืนนี้ออกมาตามคาด ตลาดอาจประเมินแนวโน้มของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า
ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในประเด็นมาตรการแก้หนี้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย"
โดยให้กรอบแนวรับ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,455 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,247.83 จุด ลดลง 154.10 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,034.91 จุด ลดลง 17.94 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,687.24 จุด ลดลง 49.45 จุด หรือ -0.25%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,357.77 จุด ลดลง 9.81 จุด หรือ -0.02% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 20,404.50 จุด เพิ่มขึ้น 93.22 จุด หรือ +0.46% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,416.09 จุด ลดลง 6.57 จุด หรือ -0.19%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ธ.ค.) ที่ 1,447.53 จุด ลดลง 4.43 จุด (-0.31%) มูลค่าซื้อขาย 35,890.72 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,752.95 ล้านบาท (9 ธ.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (10 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.65 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.70 แข็งค่านำภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร
- รัฐมนตรีคลัง-แบงก์ชาติ ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ แถลงมาตรการแก้หนี้วันนี้ (11 ธ.ค.) โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ดึงธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเป็นแกนนำ ปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชนรายย่อยคนตัวเล็ก มูลหนี้น้อย ลดเงินต้น ลดดอกเบี้ย เดินหน้าผ่อนส่งระยะเวลาจำกัด 3-5 ปีจบหนี้ รัฐสนับสนุนเพิ่มแรงจูงใจ ใช้เงินนำส่งกองทุนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าชดเชยสถาบันการเงิน พร้อมต่อยอด BIG DATA ทำ "อารีย์ สกอร์" ช่วยคนตัวเล็กกู้เงินในระบบ
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ออกโรงยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนนโยบายขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ เผยมีผลกระทบต้นทุนการผลิต 5 อุตสาหกรรมหลัก อาหาร-สิ่งทอ-ยาง-อิเล็กทรอนิกส์-รถยนต์ หวั่นย้ายฐานการผลิต ห่วงผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก (SMEs) อาจถึงขั้นทยอยปิดกิจการ ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมจังหวัดภาคกลางวิตกปัญหาโรงงานหนีตาย ยอมจ้างแรงงานต่างด้าวเถื่อนทะลักเข้าพื้นที่ แนะรัฐบาลการขึ้นค่าแรงต้องฟังคณะกรรมการไตรภาคี มีผลศึกษาสอดคล้องกับคณะอนุกรรมการค่าจ้างรายจังหวัด
- รมว.พาณิชย์ เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ เร่งเจรจา FTA ดึงการลงทุนต่างชาติ หนุนส่งออก เข้มงวดสินค้าด้อยคุณภาพ เตรียมรับมือสงครามการค้าสหรัฐ-จีนเร่งกระจายตลาด เพิ่มความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบ พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างส่งออกให้ทันสมัย สร้าง New S-Curve
- "คลัง" ชง ครม.เก็บภาษีคาร์บอนในสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันอัตรา 200 บาทต่อตันคาร์บอน คงอัตราสรรพสามิตเท่าเดิม เล็งหารือเอกชนหลังประกาศใช้ ส.อ.ท.แนะไม่ควรรีบร้อนควรหารือผู้ประกอบการให้ชัดเจนหวั่นซ้ำเติมต้นทุนช่วงเศรษฐกิจซึม เสนอรอฟังนโยบาย "ทรัมป์" หลังรับตำแหน่ง 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อร่วมวางทิศทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน
- เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2567 ผู้ประกอบการเผชิญปัจจัย "ลบ" มากกว่า "บวก" มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันของสถานการณ์ภายในประเทศทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อ เปราะบาง หนี้ครัวเรือนสูง ขณะปัจจัยภายนอก ร้อนระอุ สงครามการค้าเดือด! ส่งผลกระทบ เป็นลูกโซ่ ยังมีปมความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ลามในหลายภูมิภาค เป็น "ระเบิดเวลา" สะเทือนเศรษฐกิจโลก โดย บรรดา นักธุรกิจ ซีอีโอ องค์กรชั้นนำ ฉายภาพรวมธุรกิจ และ "นิยามแห่งปี" หลากหลายมุมมอง
- กองทุนน้ำมันฯอัพเดตฐานะใกล้ติดลบ 8 หมื่นล้านบาท ฐานะดีขึ้น หลังเคยติดลบทะลุ 1.3 แสนล้านบาท เดินหน้าอุ้มดีเซล-แอลพีจี บริหารเงินใช้หนี้ 1 แสนล้าน ธพ.เผยเบนซิน 10 เดือนลดลง เหตุ ปชช.หันใช้อีวี-ขึ้นรถไฟฟ้า
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. อินสไปร์ ไอวีเอฟ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "IVF" ในวันที่ 11 ธ.ค.67 โดยราคา IPO หุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 403 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,364 ล้านบาท
- TIDLOR (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท มองจะได้รับแรงหนุนด้านความเชื่อมั่นจากแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 18-19 ธ.ค.และทิศทางการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 68 ที่อาจลดมากกว่าหนึ่งครั้ง คงมุมมองเชิงบวกคาดคุณภาพสินทรัพย์จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ Q4/67 เป็นต้นไปหลังผู้บริหารแสดงความมั่นใจสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการจัดเก็บหนี้ดีขึ้นภายหลังปรับปรุงงบดุลตั้งแต่ปี 66 นอกจากนี้ มองโอกาสลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ได้อีกในอนาคต ขณะที่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง โดยมี Forward PE ปี 68 ที่ประมาณ 10 เท่า
- OSP (ฟินันเซียไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28 บาท ส่วนแบ่งการตลาดชูกำลังเดือน ต.ค. ในเช็งมูลค่ามูลค่ากลับมาพื้นเป็น 45% จาก 44.8% ในเดือน ก.ย. โตได้ทั้งช่องทาง traditional และ modern trade ส่วนหนึ่งเพราะน้ำท่วมคลี่คลาย มูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยเดือน ต.ค.ยังโตต่อ +4% m-m, +12% y-y โดย OSP แย่งส่วนแบ่งกลับมาได้เล็กน้อย กลยุทธ์เน้นออกสินค้าใหม่และสร้างตลาดด้วยสินค้าราคาสูงกว่า 10-12 บาท ส่วน 10 บาทยังมีขายเป็นทางเลือกให้ลูกค้าและรองรับการแข่งขัน มองผ่านจุดต่ำสุดใน Q3/67 ไปแล้ว คาดกำไร Q4/67 จะกลับมาโต q-q และ y-y คาดกำไรปี 68 จะกลับมาโตแรง +74% y-y
- AU (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.10 บาท กำไรสุทธิ Q3/67 ที่ 83 ล้านบาท +15%QoQ,+55% YoY ปัจจัยหนุนจากยอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากทั้งสาขาเดิม-สาขาใหม่ และขยายช่องทาง 7-11 วางขายขนมปังเนยโสดกระแสตอบรับดี GPM อยู่ที่ 65% ใกล้เคียงเดิม QoQ, YoY แต่ SG&A ลดลง แนวโน้ม Q4/67 มีแผนขยาย 1-2 สาขา และเพิ่มช่องทางบนสายการบินไทยส่งผลบวกต่อกำไรโตทั้ง QoQ,YoY ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 276 ล้านบาท +55%YoY และ 320 ล้าน บาท +16%YoY