หุ้น IVF เปิดเทรดวันแรกที่ 2.70 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือลดลง 12.90% จากราคา IPO ที่ 3.10 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุว่า บมจ.อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF) ประกอบธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคู่สมรส และการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ด้วยวิธีต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่น ICSI และ IUI เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของคู่สมรส
บริษัทมีรายได้ในช่วงปี 64-66 และงวด 9 เดือนแรกปี 67 เท่ากับ 12 ลบ. 65 ลบ. 122 ลบ. และ 85 ลบ. ตามลำดับ จากจำนวนรอบการเก็บไข่ (OPU) และรายได้เฉลี่ยที่ได้รับลดลง มีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทส่งเสริมการตลาดในกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนของลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าคนไทยจะมีอัตราค่าบริการต่ากว่าอัตราค่าบริการที่บริษัทเรียกเก็บจากลูกค้าต่างชาติ %GPM เท่ากับ -21.4% 49.0% 65.4% และ 59.4% ตามลำดับ
ช่วง 9 เดือนแรกปี 67 อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากรายได้จากการให้บริการของบริษัทลดลงในขณะที่บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากค่าเสื่อมราคาและค่าตอบแทนบุคลากร ส่งผลให้ช่วงปี 64-66 และงวด 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิเท่ากับ -5 ลบ. 10. ลบ. 41 ลบ. และ 16.7 ลบ.
จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 29.55% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 44.9 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ GFC 18.1x,SAFE 19.1 และ mai 43.1x วัตถุประสงค์การระดมทุน 1) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายสาขา 2) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจให้บริการดูแลสุขภาพ (wellness) เป็นต้น 3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน