SET ปิดวันนี้ที่ 1,439.89 จุด ลดลง 3.16 จุด (-0.22%) มูลค่าซื้อขาย 41,482.93 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุว่าตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าขึ้นมาได้ดี แต่ช่วงบ่ายเจอแรงขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นกดดัชนีลงมาอยู่ในแดนลบ แม้หุ้น DELTA เด้งขึ้นแต่ยังพยุงตลาดไว้ไม่ได้ แนวโน้มวันพรุ่งนี้ลุ้นรีบาวด์ โดยนักลงทุนรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนและตัวเลข PPI สหรัฐคืนนี้ ให้กรอบแนวรับ 1,437 จุด และ แนวต้าน 1,450 จุด
SET ปิดวันนี้ 1,439.89 จุด ลดลง 3.16 จุด (-0.22%) มูลค่าซื้อขาย 41,482.93 ล้านบาท
การซื้อขายวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวน เช้าดีดขึ้นแต่บ่ายปรับลง โดยทำจุดต่ำสุด 1,439.01 จุด และจุดสูงสุด 1,456.92 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 160 หลักทรัพย์ ลดลง 302 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 199 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ช่วงเช้าขึ้นมาได้ดี แต่ช่วงบ่ายเผชิญแรงขายทำกำไรกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นจากความกงวลราคาพลังงานในปีหน้า โดยเฉพาะต่างชาติยังต่อเนื่องจากที่ขายมาแล้ว 4-5 วันก่อนหยุดคริสต์มาส แม้หุ้น DELTA จะปรับขึ้นแต่พยุง SET ไว้ไม่ได้มาก
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมคณะทำงานเศรษฐกิจของจีน จับตากรอบเป้าหมายเศรษฐกิจในปี 2568 รวมทั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ขณะที่การแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือนในช่วงเช้า มองว่าเป็นการแถลงในกรอบกว้าง ๆ ยังไม่มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น ต้องรอติดตามมาตรการกระตุ้นหรืออัดฉีดที่ชัดเจนมากกว่านี้
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีรีบาวด์กลับมายืนแดนบวกได้ โดยคืนนี้ติดตามการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐ พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,437 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,408.63 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,220.37 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,945.37 ล้านบาท ปิดที่ 287.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,852.60 ล้านบาท ปิดที่ 24.90 บาท ลดลง 0.35 บาท
CCET มูลค่าการซื้อขาย 1,718.18 ล้านบาท ปิดที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท