นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นข้อกังวลของนักลงทุนต่อเคสของ บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) ที่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ทำดีล Biglot เข้ามาถือหุ้น 1,607,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 57.81% และล่าสุดระบุว่าเตรียมศึกษาเข้าทำธุรกิจ Tech ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจที่บริษัทดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยระบุว่าประเด็นดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายเกณฑ์ Backdoor แต่ในจะโอกาสเกิดดีลหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต
"ที่ผ่านมามีเพียงการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นยังไม่เข้าเกณฑ์ Backdoor ถ้าเกิดมีการได้มาซึ่งธุรกิจและเข้าข่ายเป็น Backdoor ต้องมาดูกัน แต่ว่ามันยังไม่เกิด"นายรองรักษ์ กล่าว
ขณะที่ประเด็นความกังวลคุณสมบัติของผู้บริหารบริษัทที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีนั้น ตามปกติมีตรวจสอบ 2 เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์ความไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งใช้ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารของบริษัทจดทะเบียนมีการกระทำผิดและถูกเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวโทษ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติขาดความน่าไว้วางใจต้องหลุดพ้นจากตำแหน่ง
แต่ในกรณีของ นายพันธ์ธวัช หรือ นอท กองสลากพลัส ซึ่งกำลังจะเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้บริหารของ EE หลังทำดีล Biglot เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ก็ต้องพิจารณาในเกณฑ์คุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียนในการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนเข้ารับตำแหน่ง