หุ้น TRUE ลบ 4.35% หรือลดลง 0.50 บาท มาที่ 11.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 780.72 ล้านบาท จากราคาเปิด 11.20 บาท ราคาสูงสุด 11.30 บาท ราคาต่ำสุด 10.90 บาท
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในคดีที่ บมจ.ทีโอที (ทีโอที) หรือปัจจุบัน คือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)) ยื่นคำเสนอข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.43-มิ.ย.48 เนื่องมาจาก TRUE ลดค่าบริการทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 นั้น เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 ศาลปกครองกลางอ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดให้ยกอุทธรณ์ของบริษัท โดยบริษัทจะใช้สิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งใหม่ภายใน 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
อนึ่ง ศาลปกครองสูงสุดยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งในอีกคดีที่ทีโอทีได้ยื่นคำร้องขอบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ดังนั้น บริษัทจึงไม่ต้องชำระเงินให้แก่ทีโอที อันเนื่องมาจากคำสั่งของศาลปกครองข้างต้น
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น TRUE ปรับลงราว 5% คาดว่ามาจากประเด็นเรื่องคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่มีต่อกรณีพิพาทของบริษัท
ประเด็นนี้สืบเนื่องมาจากกรณีพิพาทระหว่าง TRUE กับ NT ที่เกิดขึ้นในอดีต โดย NT ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้ให้สัมปทานบริการโทรศัพท์กับ TRUE โดย NT จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จาก TRUE ซึ่งปรากฏว่า TRUE ได้ลดราคาค่าบริการโทร.ทางไกล 1234 ทำให้ NT ได้รับส่วนแบ่งรายได้น้อยลงกว่าเดิม จึงเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเสียรายได้ระหว่าง 16 พ.ย. 43 - มิ.ย. 48 เป็นจำนวนเงิน 1.69 หมื่นล้านบาท
กรณีพิพาทนี้ได้เข้าสู่กระบวนการของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ได้ชี้ขาดให้ TRUE
-จ่ายเงิน 1.7 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 6.6875% นับจาก 29 พ.ค. 48
-จ่ายค่าเสียหายที่ NT ขาดรายได้ 27.16 ล้านบาท/เดือน พร้อมดอกเบี้ย 6.6875% ตั้งแต่ 30 มิ.ย. 48 จนกว่าจะยุติบริการโทร.ทางไกล 1234
TRUE ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้และได้ขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่ศาลปกครองกลางยกคำร้องของบริษัท ทำให้ TRUE ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และล่าสุดศาลปกครองสูงสุดให้ยกอุทธรณ์ของบริษัท ซึ่งหมายความว่า TRUE มีความเสี่ยงที่จะต้องจ่ายเงินตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ (คาดเป็นเงินรวมราว 6-7 พันล้านบาท)
แต่อย่างไรก็ตาม TRUE ยังมีสิทธิยื่นคัดค้านภายใน 90 วันเพื่อขอให้ศาลพิจารณาคดีหรือมีคำสั่งใหม่ นอกจากนี้ TRUE เองได้แจ้งว่าได้ตั้งสำรองเกี่ยวกับกรณีพิพาทนี้ไว้แล้ว (แต่ไม่เปิดเผยจำนวนที่ตั้งสำรอง) รวมทั้งยังมีกรณีพิพาทอื่นๆกับ NT ที่คาดว่าจะ Settle กันได้ จึงเชื่อว่าจะกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทไม่มาก
ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรราคาเป้าหมายของ TRUE สำหรับปี 2568 ไว้ตามเดิม (FV 13.90 บาท) และคงคำแนะนำ Outperform
เราเชื่อว่าข่าวนี้จะสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ประเด็นใหม่ เรายังคงชอบ TRUE ในแง่ของมุมมองพื้นฐาน เราคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาส 4/67 และปี 68 จาก ARPU ที่ดีขึ้นในธุรกิจมือถือและ FBB นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอันดับความน่าเชื่อถือของ TRUE ดีขึ้นในปี 68 ซึ่งอาจลดดอกเบี้ยจ่ายลงและมีข้อดีจากการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะมีขึ้นซึ่งอาจลดต้นทุนในปี 2568
ขณะที่ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้น TRUE ปรับฐานอีกวัน (ลดลง 5%) ในระหว่างช่วงการซื้อขายในเช้านี้ เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากเรายังคงคาดว่า TRUE จะรายงานโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/67 และปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้น ARPU และการลดต้นทุนเพิ่มเติม การแก้ไขใดๆ ใน share px จากความรู้สึกเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม CPALL ทำให้เกิดโอกาสในการซื้อ
ปัจจุบัน TRUE มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ กลุ่ม CP และ Telenor เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมาย 14.7 บาท