สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ระบุว่า วันนี้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ พ.1061/2567 โดยอนุญาตให้โจทก์ทั้งห้าในคดีผู้เสียหายกลุ่มผู้ลงทุนในหุ้นสามัญ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) ดำเนินคดีแบบกลุ่มได้ และศาลได้กำหนดขอบเขตของสมาชิกกลุ่ม ดังนี้ "กลุ่มบุคคลที่ซื้อหรือขายหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2566"
ทั้งนี้ จำเลยในคดียังคงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลดังกล่าวได้
ผลของคำสั่งศาลที่อนุญาตให้คดีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญของ STARK ดำเนินคดีแบบกลุ่ม หรือ Class Action นับเป็นคดีแบบกลุ่มเกี่ยวกับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญคดีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในเรื่องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของกระบวนการยุติธรรมในการเริ่มดำเนินคดีแบบกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้
โดยผลของการที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มจะส่งผลให้ผลของคดีที่ดำเนินการโดยโจทก์ทั้งห้าในคดี และคำพิพากษาของคดีดังกล่าว (เมื่อศาลมีคำพิพากษาในลำดับต่อไป) มีผลผูกพันสมาชิกในกลุ่มที่มีลักษณะข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกันด้วยโดยอัติโนมัติ
TIA ระบุว่า เป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทยที่การดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ถูกนำมาใช้จริง โดยผลของคำสั่งศาลที่อนุญาตให้คดีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญของ STARK ดำเนินคดีแบบกลุ่ม หรือ Class Action นับเป็นคดีแบบกลุ่มเกี่ยวกับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญคดีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในเรื่องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา
"ถือเป็นก้าวแรกของกระบวนการยุติธรรมในการเริ่มดำเนินคดีแบบกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้"
นอกจากนี้ ผลของการที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มจะส่งผลให้ผลของคดีที่ดำเนินการโดยโจทก์ทั้งห้าในคดี และคำพิพากษาของคดีดังกล่าว (เมื่อศาลมีคำพิพากษาในลำดับต่อไป) มีผลผูกพันสมาชิกในกลุ่มที่มีลักษณะข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกันด้วยโดยอัตโนมัติ
นายยิ่งยง นิลเสนา นายก TIA เปิดเผยว่า TIA ร่วมผลักดันการบังคับใช้กฎหมาย Class Action มาต่อเนื่องกว่า 2 ปีที่ผ่าน จนถึงวันนี้ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกหลังศาลมีคำสั่งให้ คดี STARK เป็นคดีแบบ Class Action ซึ่ง TIA ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ตามกระบวนการยุติธรรมให้เกิดผล
โดยเริ่มแรกของการดำเนินการนั้น TIA ในฐานะองค์กรตัวแทนผู้ลงทุนรายบุคคล มีภารกิจในการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ลงทุนในหุ้นสามัญ STARK ได้มีการดำเนินเปิดให้มีการลงทะเบียนผู้เสียหาย หุ้นสามัญ STARK ในระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 19-25 มิถุนายน 2566 มีผู้มาลงทะเบียน จำนวน 1,759 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,063 ล้านบาท และคดีได้มีดำเนินการมาต่อเนื่องจนศาลมีคำสั่งให้ STARK เป็นคดีแบบ Class Action
TIA ยังช่วยกระจายข่าวสารไปยังกลุ่มผู้เสียหายตามคำร้องขอของโจทก์ตัวแทนผู้เสียหายเมื่อมีความคืบหน้าของคดี เป็น "คำประกาศ" ไปแล้ว เป็นจำนวน 2 ฉบับ แจ้งข้อมูล ผ่านช่องทางการสื่อสาร คือ 1) ระบบออนไลน์ ตามอีเมล์ของผู้เสียหายแต่ละบุคคล ที่ลงทะเบียนไว้กับสมาคมฯ 2) ระบบออนไลน์ ในหน้าเว็ปไซด์ของสมาคมฯ
"TIA ได้ดำเนินการด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด ในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหุ้นสามัญ STARK มีการติดต่อและประสานงาน ด้วยความระมัดระวัง เพื่อที่จะให้มีการฟ้องคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ให้เป็นผลสำเร็จและดูแลปกป้องผู้ลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย"นายยิ่งยง กล่าว