นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ส่งผลให้ไม่เกิดการแข่งขันเชิงคุณภาพระหว่างผู้ประกอบการ และกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของนักลงทุนที่น้อยลง ซึ่งในช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการเข้าไปพูดคุยผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอให้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขึ้น ซึ่งหากนักลงทุนยอมจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นก็จะได้รับบริการที่ดีขึ้น จากเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถ โบรกเกอร์ต่าง ๆ มีเงินลงทุนทีมวิจัยเพื่อการวิเคราะห์ที่ดีและมีสินค้าบริการที่หลากหลาย ซึ่งก็จะสร้างผลตอบแทนของนักลงทุนหลังค่าธรรมเนียมสูงขึ้น
ขณะที่ประเด็นการทำธุรกรรม Short Sell รวมทั้ง Naked Short Sell นั้นในยุคที่ตนดำรงตำแหน่งไม่มีการทำธุรกรรมดังกล่าว ซึ่งมองว่าการทำ Short Sell เป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตามหากเกิดข้อสงสัยจากการทำ Short Sell ก็ต้องระงับชั่วคราวซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ทั้งนี้ด้วยรูปแบบที่เปลี่ยนไป การกลับมาทบทวนอีกครั้งไม่ใช่เรื่องแปลก
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงกรณีความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังเป็นประเด็น โดยต้องพิจารณาทั้งรูปแบบ หรือกฎเกณฑ์ในการตรวจสอบ และเนื้อหาซึ่งอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่ตรวจสอบตามกฎเกณฑ์ และแนะนำหากมีข้อกังวลความเชื่อมั่น ก็อาจช่วยระงับเหตุได้เบื้องต้น แต่หากตรวจสอบแล้วบริษัทยังยืนยันจะเดินหน้าต่อก็ต้องรายงานก.ล.ต.
"บางเรื่องเป็นไปตามกฎระเบียบ แต่อาจกระทบความเชื่อมั่น สังคมที่เป็นผู้กี่ยวข้องรอบเขา เขาเห็นว่าสิ่งที่ทำมันควรไหม แม้ระเบียบให้ทำได้แต่ไม่ควร แล้วท่านยังฝืนจะทำ ท่านก็รับผลกระทบของความไม่เชื่อมั่นที่จะเกิดขึ้นไปสู่ตัวท่าน และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย" นายกิตติรัตน์ ให้ความเห็น