สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (16 - 20 ธันวาคม 2567) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 385,900 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 77,180 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 12% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 47% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 181,137 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 156,994 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 13,497 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29NA (อายุ 4.9 ปี) ESGLB376A (อายุ 12.5 ปี) และ LB27NA (อายุ 2.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 56,096 ล้านบาท 12,463 ล้านบาท และ 10,635 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด รุ่น ICBCTL25OA (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 588 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น QH27DA (A-) มูลค่าการซื้อขาย 579 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC268A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 542 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงประมาณ 5-11 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ประจำเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.6 จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ย. จากการขยายตัวของภาคบริการ ขณะที่รายงานตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐฯ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2567 ขยายตัว 3.1% หลังจากมีการขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2567 ด้านปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 จะขยายตัวได้ 2.9% ลดลงจากคาดการณ์เดิม เมื่อเดือนต.ค.ที่ 3% เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจในปีหน้ามีมากขึ้นจากความไม่แน่นอนสูงขึ้น ทำให้เห็นโอกาสที่เศรษฐกิจไทยอาจจะโตไม่ถึงตัวเลขที่เคยประมาณการไว้ และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเติบโต
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% คณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปี 2568 จากเดิมที่ส่งสัญญาณ ในเดือนก.ย.ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวม 1.00% ในปี 2568 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-3 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75% สอดคล้อง กับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สัปดาห์ที่ผ่านมา (16 - 20 ธันวาคม 2567) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 8,263 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิใน ตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 1,344 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 15,971 ล้านบาท และ มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 6,364 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (16 - 20 ธ.ค. 67) (9 - 13 ธ.ค. 67) (%) (1 ม.ค. - 20 ธ.ค. 67) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 385,899.87 439,286.91 -12.15% 18,713,164.04 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 77,179.97 109,821.73 -29.72% 78,626.74 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 107.82 108.24 -0.39% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 107.44 107.41 0.03% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (20 ธ.ค. 67) 2.02 2.03 2.02 2 2.08 2.27 2.43 2.81 สัปดาห์ก่อนหน้า (13 ธ.ค. 67) 2.07 2.08 2.07 2 2.09 2.32 2.46 2.92 เปลี่ยนแปลง (basis point) -5 -5 -5 0 -1 -5 -3 -11