บมจ.แพลททินัม ฟรุ๊ต [PTF] ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) (UOBKH) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
นายธีรศักดิ์ ทวีปิยมาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ UOBKH กล่าวว่า PTF ประกอบธุรกิจหลักในการส่งออกผักและผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยมกว่า 9 ประเทศและเขตบริหารพิเศษทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น ทุเรียน ลำไย มังคุด มะพร้าว ภายใต้ 23 ตราสินค้า อาทิ แพลททินัม ฟรุ๊ต นกอินทรี กวางทอง ลักกี้ เป็นต้น รวมถึงการบริการตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นและบริการพิธีการศุลกากรส่งออกและนำเข้าแบบครบวงจร
ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจโดยมีบริษัทลูก 4 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท ตองแปด ผักผลไม้ จำกัด (TFV) ดำเนินธุรกิจส่งออกผักและผลไม้สดไปยังต่างประเทศ 2.บริษัท ตองแปด โลจิสติกส์ จำกัด (TPL) ดำเนินธุรกิจขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบกภายในประเทศและต่างประเทศ 3.บริษัท สกาย ชอร์ เทรดดิ้ง จำกัด (SST) ดำเนินธุรกิจในการให้บริการดูแลตู้คอนเทนเนอร์ครบวงจร บริการเดินเรื่องพิธีการศุลกากรนำเข้าและส่งออก บริการจัดหาระวางเรือ รวมไปถึงบริการลานขนส่งและขนถ่ายสินค้าบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง 4.บริษัท สกาย ชอร์ เดโป จำกัด (SCD) ดำเนินธุรกิจให้เช่าที่ดินเพื่อเป็นลานรับฝากตู้สินค้า
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) จะมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท คิดเป็น 800 ล้านหุ้น จากปัจจุบันมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 300 ล้านบาท คิดเป็น 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.5 บาทต่อหุ้น โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 11 พ.ย.67 มีนายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ถือหุ้น 300,000,000 หุ้น คิดเป็น 50% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 37.50% และ นางชมชนก เอี่ยมสกุล 299,999,800 หุ้น คิดเป็น 50% จะลดเหลือ 37.50% นายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTF กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ "Growing Together Fruitfully หรือ เติบโตงอกงามไปด้วยกัน" สามารถทำธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่จัดหาสินค้าเกษตรที่มี "คุณภาพ" โดยคัดเลือกจากสวนผลไม้ที่มีมาตรฐาน GAP และ Global GAP รับรอง ตลอดจนมีความเข้าใจตลาดของผู้บริโภคแต่ละประเทศที่มีความต้องการแตกต่างกันเป็นอย่างดี และมีการลงทุนระบบโลจิสติกส์ในรูปแบบ One Stop Service ทำให้มีตลาดส่งออกผลไม้สดกระจายอยู่ทั้งในเอเชีย ยุโรป อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดนีเซีย อินเดีย ไต้หวัน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้เกษตรกรไทย เพื่อเพิ่มคุณภาพผลไม้ให้ตรงความต้องการของตลาดปลายทาง ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลไม้สำหรับการส่งออกตลอดทั้งปี พร้อมตระหนักถึงการมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ชุมชน เพื่อให้ธุรกิจของกลุ่มแพลททินัม ฟรุ๊ต มีส่วนช่วยสร้างความเจริญเติบโตและอยู่ร่วมกันกับทุกฝ่ายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ภาพรวมการดำเนินงานในปี 64-66 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,613.06 ล้านบาท 5,345.51 ล้านบาท 5,489.40 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,797.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,012.89 ล้านบาท หรือ 21.17% จากงวดเดียวกันในปีก่อนหน้าที่ทำได้ 4,784.71 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 247.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153.98 ล้านบาท จากงวดเดียวกันในปีก่อนหน้า เป็นผลจากการดำเนินตามแผนธุรกิจที่มีเพิ่มยอดขายในตลาดหลักและมีการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศใหม่ๆ ต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดเปิดตลาดส่งออกลำไยเกรดพรีเมี่ยมไปยังอินเดียได้เป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้