ราคาหุ้น PTTEP บวก 0.85% มาอยู่ที่ 118.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 178.97 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.15 น. โดยเปิดตลาดที่ 118.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 119.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 117.50 บาท
บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม [PTTEP] ประกาศแผนดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Drive-Decarbonize-Diversify เพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 93 รวมถึงขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition)
PTTEP จัดสรรงบประมาณประจำปี 68 รวม 7,819 ล้านดอลลาร์ สรอ.ประกอบด้วย รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 5,299 ล้านดอลลาร์ สรอ. และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) 2,520 ล้านดอลลาร์ สรอ.
เป้าหมายการดำเนินงานปี 68 ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งและขยายการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในต่างประเทศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับแผนงานหลัก ดังนี้
1. เพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากโครงการปัจจุบัน โครงการผลิตหลักที่สำคัญเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย ได้แก่ โครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) โครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการคอนแทร็ค 4 โครงการพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้าและโครงการยาดานาในเมียนมานำก๊าซที่ผลิตได้เข้ามาใช้ในประเทศไทย อีกทั้ง โครงการผลิตหลักในต่างประเทศที่สำคัญ เช่น โครงการในมาเลเซียและโอมาน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 3,676 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีแผนงานกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ครอบคลุม Scope 1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง และ Scope 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายระหว่างทาง (Interim Target) ลดความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Intensity) จากปีฐาน 63 ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30% และ 50% ภายในปี 73 และ 83 ตามลำดับ ตั้งงบประมาณปี 68 ทั้งสิ้น 77 ล้านดอลลาร์ สรอ.
2. เร่งผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระยะพัฒนา (Development Phase) ได้แก่ โครงการสัมปทานกาชา โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 และโครงการพัฒนาในมาเลเซีย เช่น มาเลเซีย เอสเค 405 บี, มาเลเซีย เอสเค 417 และ มาเลเซีย เอสเค 438 เป็นต้น ให้เริ่มผลิตได้ตามแผนงาน จัดสรรรายจ่ายลงทุน 1,464 ล้านดอลลาร์ สรอ.
3. เร่งสำรวจโครงการปัจจุบัน ทั้งที่อยู่ในระยะสำรวจ ระยะพัฒนา รวมถึงโครงการที่ผลิตแล้ว เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 127 ล้านดอลลาร์ สรอ.สำหรับการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลของโครงการในไทย มาเลเซีย และเมียนมา
งบประมาณ 5 ปี (ปี 68-72) ที่ได้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนงาน
หน่วย : ล้านดอลลาร์ สรอ.
ปี 2568 ปี 2569 ปี 2570 ปี 2571 ปี 2572 ปี 2568-2572 รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 5,299 5,181 4,674 3,259 2,836 21,249 รายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) 2,520 2,485 2,284 2,456 2,593 12,338 รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total Expenditure) 7,819 7,666 6,958 5,715 5,429 33,587 จากแผนงานและการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว PTTEP คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมในปี 68-72 หน่วย : พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2568 ปี 2569 ปี 2570 ปี 2571 ปี 2572 คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 507 541 528 585 581
PTTEP เริ่มขยายธุรกิจใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จึงสำรองงบประมาณ 5 ปี (68-72) เพิ่มเติมจากงบประมาณข้างต้นอีก 1,747 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง ธุรกิจดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS as a Service) ธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และลงทุนในธุรกิจและเทคโนโลยีผ่านบริษัทย่อยเพื่อดำเนินงานในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมองค์กรช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต พร้อมกับการดูแลสังคมและชุมชนโดยรอบ
ด้าน บล.หยวนต้า ระบุว่า PTTEP ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปีฉบับใหม่คาดการเติบโตของปริมาณขยที่ +3.4% ลดลงจากเดิมที่5% โดยหลักจากปี 68 เนื่องจากโครงการในไทยอยู่ใน Decline Stage และบริษัททบทวนการลงทุนโครงการ Lang Lebah เดิมเริ่มผลิตในปี 71 เพราะต้นทุนพัฒนาโครงการสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายปี 69-72 ไม่ต่างจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ เพราะ Contribution การลงทุนใน Ghasha ช่วงกลางปี 67 ช่วยบรรเทาผลกระทบได้
ขณะที้ PTTEP ลงทุนโครงการก๊าซในแอลจีเรียเพิ่มเติม ถือว่าความเสี่ยงต่ำเพราะอยู่ใน Production Phase คาดเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่ปิดดีล (Q2/68) สร้างกำไรราว 20-30 ล้านเหรียญฯ/ปี และเป็นการขยายลงทุนในทวีปแอฟริกาที่มีศักยภาพสูง (เป็นโครงการที่ 4)
ดังนั้น ปรับประมาณการปี 67-68 ลง 5-12% สะท้อนแผนธุรกิจใหม่และเพิ่มความรัดกุมมากขึ้น โดยให้ราคาเหมาะสมใหม่ 158.00 บาท คงคำแนะนำ "ซื้อ" จากแนวโน้มกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี, เงินปันผลสูง, สถิติราคาหุ้นเคลื่อนไหวได้ดีช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.