นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค [DOD] เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 4/67 เติบโตในทิศทางที่ดี โดยยอดขายรวมของบริษัทฯ กลับมาสู่ระดับปกติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่ายอดขายจากฐานการผลิต (Production Base) จะอยู่ที่ประมาณ 100-120 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายจากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ภายใต้ บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ในไตรมาสเดียวกัน คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 75-80 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 DOD จะมีรายได้จากยอดขายรวมที่ประมาณ 175-200 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ยังมีการสั่งผลิตสินค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกสินค้าใหม่ๆ ทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ในทุกเดือน ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ ที่เป็นฐานการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายจากกลุ่มค้าปลีกภายใต้ บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ซึ่งดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ "Auswelllife" นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ก็เป็นไปในทิศทางที่ดีเช่นกัน
อีกทั้งบริษัทฯ ยังฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพราะหนี้สินต่อทุน (DE Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำ เนื่องจากมีการจ่ายคืนหนี้สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เพียงพอในการขยายงานและการลงทุนในอนาคต
นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มสินค้าเดิมที่มียอดขายดีและมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังมีการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งพิจารณาได้จากการขยายกำลังการผลิต โดยได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรสำหรับทำกัมมี่ (Gummies) เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังการผลิตที่ 1 แสนชิ้นต่อวัน (เฉลี่ยประมาณ 2.5 ล้านชิ้นต่อเดือน) โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตสินค้าประเภทกัมมี่ (Gummies) ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/68 และจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ ภายในไตรมาส 2/68 เป็นต้นไป สำหรับความต้องการอาหารเสริมในรูปแบบกัมมี่ (Gummies) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความนิยมมากขึ้น ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่นิยมรับประทานง่ายและมีประโยชน์
"สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมในปี 2568 นั้น บริษัทฯ มองว่า เทรนด์ของคนรักสุขภาพยังคงมีต่อเนื่อง โดยผู้เล่นรายใหม่จะเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป แต่ปัจจุบันกลุ่มที่หันมาทำธุรกิจเสริมอาหารจะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและยอมรับอย่างกลุ่มหมอมากขึ้น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต้องมีคุณสมบัติที่มีมาตรฐานระดับสูง ซึ่งต้องผ่านการผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพระดับสูงด้วยเช่นกัน"