ASP ให้กรอบ SET ปี 68 1,490-1,600 จุด Q1/68 ติดตามแรงกดดัน TRUMP 2.0-กอง LTF จ่อขาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 2, 2025 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เอเซีย พลัส ในกลุ่ม บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [ASP] ประเมินภาพตลาดหุ้นไทยไตรมาส 1/68 มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงการเมืองโลก TRUMP 2.0 เป็นเรื่องที่นักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้น เนื่องจากผลกระทบต่อภาคการค้าระหว่างประเทศ เสี่ยงแพร่กระจายไปทั่วโลก (ไม่ใช่แค่จีนประเทศเดียว) โดยคาดสหรัฐจะเริ่มปรับขึ้นภาษีนำเข้าในช่วงไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป กดดัน GDP โลกปี 68 หดตัว 0.4% - 0.6% ส่วนหุ้น TRUMP TRADE และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นแรง ตอบรับในเชิงบวกมาระดับหนึ่งแล้ว ปกติจะเริ่มย่อตัวลงในเดือนที่ TRUMP เข้ารับตำแหน่ง ในมุมนโยบายการเงินธนาครกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ Hawkish มากขึ้น มีโอกาสลดดอกเบี้ยเพียง 1-2 ครั้งในปีนี้

ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 68 มีแนวโน้มเติบโตตามแต่ละส่วนประกอบของ GDP หลักๆ มาจากความคาดหวังการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบของรัฐบาลไทย อาทิ EASY E-RECEIPT, แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 แต่ระยะถัดไปการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจำกัด จากหนี้สาธารณะต่อ GDP เริ่มปริ่มเพดาน 70%

ในมุม Fund Flow ต้นปี 68 ตลาดหุ้นอาจเผชิญ แรงกดดันจากเม็ดเงิน LTF ที่พร้อมขายสูงขึ้นเป็น 2.3 แสนล้านบาท สูงกว่าต้นปีก่อนที่ 1.6 แสนล้านบาท ราว 43% โดยคาดจะเห็นแรงขายออกมาในเดือน ม.ค.68 เป็น 1.5-2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเดือน ม.ค. ปีอื่นๆ ขณะที่แรงซื้อกองทุน ThaiESG อาจชดเชยได้ไม่พอ ส่วนเม็ดเงินต่างชาติมีโอกาสชะลอช่วงสั้นๆ เนื่องจากนักลงทุนอยู่ในช่วงรอดูนโยบาย TRUMP 2.0 และหากเทียบเคียงยุค TRUMP 1.0 ปี 61 ที่มีประเด็นสงครามการค้า เป็นปีที่ต่างชาติขายหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.87 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากการทยอยปรับลด EPS68F ที่ BLOOMBERG ประเมิน EPS25F ที่ 98.5 บาท/หุ้น เทียบเท่ากำไร 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี (เฉลี่ยต่อไตรมาสราว 3 แสนล้านบาท) ถือว่าเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสูงกว่ากำไรระดับปกติไตรมาสละ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนได้

อย่างไรก็ตาม SET ย่อตัวลงมาอาจมีจังหวะรีบาวน์ได้บ้าง จากความคาดหวังการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 4/67 ที่น่าจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากฐานต่ำ โดยงวดไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท และกำไรงวดไตรมาส 3/67 ที่ 1.9 แสนล้านบาท

ในมุม Valuation เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินเป้าหมายดัชนี SET ผ่าน EPS68F จาก BLOOMBERG Consensus ที่ 98.5 บาท/หุ้น ซึ่งอาจมี DOWNSIDE ในช่วง 3 เดือนแรกของปีที่มักถูกปรับลงเฉลี่ย -5.8 บาท/หุ้น จึงทำ Sensitivity ของเป้าหมายดัชนี SET ปี 68 อิง P/E ที่ 16.5 เท่า เมื่อคูณกับ EPS68F ระดับต่างๆ จะได้เป้าหมายดัชนีปี 68 ที่ 1,490-1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุนเดือนม.ค. 68 แนะนำหุ้นเด่นน่าลงทุน 4 กลุ่ม ดังนี้ หุ้นผันผวนต่ำ AOT, BEM หุ้นปันผลสูง BBL, SIRI หุ้นรับกระแสกระตุ้นเศรษฐกิจ ADVICE, BJC หุ้นยุค TRUMP 2.0 คือ RCL


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ