(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งทรงตัวไร้ปัจจัยขับเคลื่อนหลังวานนี้ร่วงแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 3, 2025 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งทรงตัวออกด้านข้างไร้ปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนหลังวานนี้ร่วงแรงสอดคล้องภูมิภาค โดยตลาดบ้านเรายังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ตามปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกอ่อน ๆ วันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ให้กรอบแนวรับ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยคาดแกว่งทรงตัวออกด้านข้าง โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนทำให้การฟื้นตัวจำกัด หลังวานนี้ร่วงค่อนข้างแรงสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการเทขายหุ้นใหญ่จากปัจจัยเฉพาะตัว

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกได้อ่อน ๆ คาดว่าตลาดบ้านเราจะเคลื่อนไหวอิงภูมิภาค ระหว่างรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,392.27 จุด ลดลง 151.95 จุด หรือ -0.36%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,868.55 จุด ลดลง 13.08 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,280.79 จุด ลดลง 30.00 จุด หรือ -0.16%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 9,708.74 จุด เพิ่มขึ้น 85.42 จุด หรือ +0.44% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,267.08 จุด เพิ่มขึ้น 4.52 จุด หรือ +0.14% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้ (3 ม.ค.) เนื่องในวันหยุดตลาดหลักทรัพย์
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ม.ค.) ที่ 1,379.85 จุด ลดลง 20.36 จุด (-1.45%) มูลค่าซื้อขาย 36,896.32 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (2 ม.ค.) 1,251.82 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (2 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ม.ค.) อยู่ที่ 4.67 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.38 อ่อนค่าตามตลาดโลกกังวลเฟดชะลอปรับลดดอกเบี้ย
  • "หุ้นไทย-หุ้นเอเชีย" ร่วงแรง รับปี 2568 หุ้นไทยร่วงหนัก 20 จุด เหตุไร้ปัจจัยบวก หุ้นเอเชียดิ่งเหว ฮ่องกงปิดลบกว่า 400 จุด ขณะที่ 'จีน' ปิดตลาดวันแรกของปีแย่สุดรอบ 8 ปี หลังข้อมูล ภาคการผลิตอ่อนแอ สะท้อนนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจผันผวนยุคทรัมป์ 2.0
  • "นักวิชาการ" มองไทยร่วม BRICS ดันส่งออก-นำเข้าเพิ่ม ดึงการลงทุนใหม่ "นักเศรษฐศาสตร์" เตือนเสี่ยงถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม หวั่นถูกมองเลือกข้างติดร่างแหสงครามการค้า ถูกสหรัฐเพ่งเล็งมากขึ้น สรท.มองเพิ่มโอกาสส่งออกไทยไปตลาดใหม่ ชดเชยส่งออกไปจีนลดลง "ปานปรีย์" มั่นใจไทยไม่ถูกสหรัฐกดดัน ชี้นโยบายทรัมป์กดดัน BRICS แข็งแรงขึ้น
  • มอบแต่ต้นปี "แพทองธาร" ให้ "พิชัย" นั่งหัวโต๊ะแทนประชุมกรอบงบประมาณปี 69 เน้น ศก.เติบโต-การเงินเข้มแข็ง ขณะที่ "สุวัจน์" มอง ศก.ปี 68 จีดีพีทะลุ 3% นทท.พุ่งเกิน 40 ล้านคน แต่อย่าประมาท เตรียมเงินทุนสำรองไว้รับวิกฤตฉุกเฉิน ขณะที่สรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่หลัง "กิตติรัตน์" ตกคุณสมบัติ มั่นใจทำได้เร็ว
  • คลัง ปิดประตูเก็บภาษีขายหุ้น พร้อมไม่ยกเลิกมาตรการลดหย่อนภาษี ระบุหากยกเลิกตัวใดก็จะกระทบต่อประชาชนผู้เสียภาษี พร้อมรับศึกษาแนวปฏิรูปภาษี นำ NIT มาบังคับใช้ ยันทำแบบค่อยเป็นค่อยไปหวังเพิ่มขีดการแข่งขันประเทศ
  • สมาคม บลจ.ปลื้ม! เงินใหม่เข้า Thai ESG สิ้นปี 67 กว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ดันเอยูเอ็มพุ่ง 3 หมื่นล้านบาท โต 400% "บล.กรุงศรี" เผยเงิน LTF ครบกำหนดม.ค.นี้ 6.8 หมื่นล้านบาท ไม่กระทบหุ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TIDLOR (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท มมองเชิงบวกต่อการจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.438 บาท/หุ้นขึ้น XD 6 ม.ค.นี้คิดเป็นอัตราเงินปันผลราว 2.5% อีกทั้ง Sentiment เชิงบวกจากขึ้นค่าแรงปี 68 ราว 3-5% ประกอบกับการเร่งจัดเก็บลูกหนี้ใน Q4/67 ภายหลังทำ Clean up คุณภาพสินทรัพย์ตั้งแต่ปี 66 ส่งผลทำให้ Asset quality แนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ Q4/67 นอกจากนี้คาดการเติบโตของสินเชื่อปี 68 ระดับ 10-15% พร้อมทั้งการเติบโตของรายได้ประกันจะหนุนการฟื้นตัวของ ROE ในปีนี้เป็นต้นไป และบอนด์ยีลด์ของไทยอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 2.3% หนุนเก็งกำไรกลุ่ม Finance ในขณะที่ Fwd PE'68 อยู่ที่ 10 เท่า
  • OSP (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28 บาท ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ล่าสุดเดือน พ.ย. ในเชิงมูลค่าปรับขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 45.4% จาก 45% ในต.ค. เช่นเดียวกับ CBG ซึ่งหมายถึงคู่แข่งอันดับ 3 อย่าง KTD มีส่วนแบ่งตลาดลดลง เป็นสัญญาณบวกต่อรายได้ OSP ที่จะทยอยปรับตัวขึ้น คาดกำไรในไตรมาส 4/67 จะโต q-q และ y-y เราคาดกำไรสุทธิปี 2568 จะกลับมาโตแรง +74%y-y ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำให้ 2025PER อยู่ที่ 19.2 เท่า ห่างจาก CBG ที่ 25.2 เท่า มากเกินไป
  • BTG (ยูโอบี เคย์เฮียน) แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21 บาท คาดกำไร Q4/67 เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรยังปรับดีขึ้นต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ