นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้ม ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีรีบาวด์ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเริ่มทรงตัว เริ่มมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเล็กน้อย รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ดัชนีดีดกลับ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากการปรับตัวลงแรงของหุ้นขนาดใหญ่ หากวันนี้หุ้นกลุ่ม New-Co ยืนได้และ DELTA ไม่มีแรงขายออกมา ดัชนีน่าจะรีบาวด์
ขณะที่สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค. ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนม.ค. สำหรับปัจจัยในประเทศรอติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคาร
พร้อมทั้งให้กรอบแนวต้าน 1,397 จุด และแนวรับ 1,375 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,732.13 จุด เพิ่มขึ้น 339.86 จุด หรือ +0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,942.47 จุด เพิ่มขึ้น 73.92 จุด หรือ +1.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,621.68 จุด เพิ่มขึ้น 340.88 จุด หรือ +1.77%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,945.42 จุด เพิ่มขึ้น 50.88 จุด หรือ +0.12% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,848.71 จุด เพิ่มขึ้น 88.44 จุด หรือ +0.44% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,209.78 จุด ลดลง 1.65 จุด หรือ -0.05%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ม.ค.) ที่ 1,384.76 จุด เพิ่มขึ้น 4.91 จุด (+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 29,719.43 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (3 ม.ค.) 489.09 ล้านบาท
- ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (3 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 73.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ม.ค.) อยู่ที่ 4.11 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.49 อ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด หนุนดอลลาร์แข็งค่า
- "พีระพันธุ์" ลั่นพร้อมเปิดหน้า "พัง" ทุกสถานการณ์ สู้แบบหลังพิงเชือก ส่งสัญญาณปีนี้ออกกฎหมายสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง 90 วัน อ้างระบบนี้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงทันทีอย่างน้อย 2.50-4 บาท
- "คลัง" ลุยแก้หนี้เฟส 2 ช่วยลูกหนี้นอนแบงก์ผ่านวงเงินซอฟต์โลน 5 หมื่นล้าน ชงเข้า ครม.เดือน ม.ค.นี้ ขยายกลุ่ม โครงการคุณสู้เราช่วย ครอบคลุมนอน-แบงก์ ถกปล่อยสินเชื่อผ่อนคลาย เติมเม็ดเงินใหม่ หนุนพิโกไฟแนนซ์ กลไกดันเงินสู่ระบบ พร้อมเติมสภาพคล่องลงท้องถิ่น 1 ล้านล้านบาท "ทีดีอาร์ไอ" หนุนขยายกลุ่มนอน-แบงก์ แต่ต้องคัดกรองคนเข้าร่วมโครงการ
- "นักเศรษฐศาสตร์" ห่วงหนี้เสียเพิ่ม หลังแบงก์เข้มปล่อยกู้ ผลักคนพึ่งหนี้นอกระบบพุ่ง เปิดรายงานเสถียรภาพระบบการเงิน ธปท. พบความเสี่ยงพุ่ง ความสามารถชำระ "หนี้ครัวเรือน-ธุรกิจ" ทรุด จับตาธุรกิจ-ครัวเรือนผิดนัดชำระเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 บัญชี เฝ้าระวัง "นอนแบงก์" ธุรกิจเช่าซื้อน่าห่วงกำไรทรุด "เครดิตบูโร" ชี้หนี้เสียจ่อขยับแตะ 1.4 ล้านล้าน เพิ่มอีก 2 แสนล้านในปี 68
- กระทรวงการคลังสั่งการ 3 กรมภาษีเร่งเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บ เปิดข้อมูลเก็บภาษี 2 เดือนแรก "หืดจับ" รมช.จุลพันธ์ยอมรับโจทย์ยากขึ้นทุกปี มอบนโยบาย "สรรพากร" เร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษี หลังรายได้รัฐลดลงต่อเนื่อง เผยปีงบประมาณ 2568 ตั้งเป้าจัดเก็บ 2.887 ล้านล้านบาท "ปิ่นสาย" อธิบดีสรรพากร สั่งทุกพื้นที่จัดเก็บต้อง "เข้าเป้า" ในภาวะเศรษฐกิจยังฟ้นไม่ดี สั่งจับตาผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยเฉพาะ "ผู้ค้าออนไลน์" เข้าระบบภาษี "อธิบดีสรรพสามิต" ชงเก็บภาษีความเค็มภายในปีนี้ แจงบางอุตสาหกรรมต้องยอมสูญเสียภาษีเพื่อดึงดูดลงทุน เช่น กรณีรถ EV
- รัฐบาลแพทองธาร ชูซอฟต์พาวเวอร์ 'สมุนไพร-แพทย์แผนไทย' ต่อยอดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รับยุทธศาสตร์ดันไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical & Wellness Hub) ปี 2568-2577 ปั้มรายได้ 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2577 บิ๊กธุรกิจโรงแรม-อสังหา-โรงพยาบาล รุกลงทุนศูนย์เวลเนส รองรับเทรนด์นักท่องเที่ยวนิยมป้องกันตัวเองก่อนเจ็บป่วย
- รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มโครงข่ายและเส้นทางรถไฟทางคู่ รวมถึงมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟสายใหม่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ส่วนต่อขยาย จึงทำให้มีความต้องการในการจัดหารถจักรและล้อเลื่อนมาวิ่งบนทางคู่ รองรับขบวนรถไฟได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวกับระบบรางก็ขาดบุคลากร ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคมจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการผลิตทั้งคน รถ และอุปกรณ์
- อีอีซีลั่นปี 68 ยังเดินหน้าดึงเม็ดเงินลงทุน 1 แสนล้านบาท พร้อมเร่งรัดให้เกิดการลงทุนจริง ลุย One stop service ให้บริการออกใบอนุญาตดันการก่อสร้างเกิดได้ทันที
- กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รายงานปี 2567 ตัวเลขนักท่องเที่ยวแตะ 35.5 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าปี 2568 เติบโต เพิ่มเป็น 39 ล้านคน
*หุ้นเด่นวันนี้
- BEM (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 11.20 บาท 1)มุมมองด้านเทคนิค ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว (ในแนวโน้มขาลง) หลังปรับลงแรง ประเมินแนวรับ 7.05 บาท / แนวต้าน 7.2 - 7.3 บาท กรณี Rebound ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินแนวต้านถัดไป +/- 7.6 บาท (Stop loss 6.9 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นปรับลง แรง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน เราคาดจำนวนผู้โดยสารทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและทางด่วนยังเติบโตดีต่อเนื่อง ขณะที่ลุ้น Upside จากโครงการทางด่วน Double-deck ที่คาดจะได้ข้อสรุปจากภาครัฐฯในไตรมาส 1/68 3) Valuation ลงมาใกล้ระดับช่วงวิกฤตโควิด-19 แล้ว PBV ล่าสุด = 2.9 เท่า เป็นระดับ
- STA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23 บาท เราคาด STA จะได้อานิสงส์จากราคายางที่คาดว่าจะยังปรับขึ้นในปี 2568 จากภาวะ Supply Deficit ของโลกจากกำลังการผลิตใหม่ที่จำกัด ส่วนมาตรฐาน EUDR แม้จะถูกเลื่อนเป็นสิ้นปี 2568 แต่มองคำสั่งซื้อจะเร่งขึ้นในครึ่งหลังปี 68 ส่วน Trade War มีโอกาสหนุนคำสั่งถุงมือยางจากไทยมากขึ้น เราคาดกำไรไตรมาส 4/67 ที่ 983 ลบ. พลิกจากขาดทุนในไตรมาส 4/66 หนุนทั้งปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท +512% y-y ส่วนปี 2568 คาดโตต่อเนื่องเป็น 2.5 พันล้านบาท +43%y-y จากปริมาณการขายยางธรรมชาติและถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายถุงมือยางคาดปรับขึ้นตาม SICOM และได้อานิสงส์จาก EUDR โดยเฉพาะในฝั่ง Margin ที่อาจมี Upside
- TMAN (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 26.10 บาท มีมุมมมองเชิงบวก ภายหลังจากสามารถขึ้นทะเบียน Propolis เป็นยาแผนปัจจุบันได้ จะสามารถเข้าไปขายได้ในรพ. ทั้งเอกชนและรัฐบาลซึ่งสามารถเบิกประกันได้ และการเติบโตในช่องทางโรงพยาบาลราว 13% จะเติบโตขึ้นเป็น 17% ในปี 2568 มาจากการนำยา new generic drug เข้าไปขาย ทั้ง Attor40 ที่เริ่มได้รับความนิยม ตั้งแต่ในไตรมาส 3/67 และกลุ่มยาเบาหวาน Maniptin ที่สามารถขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ได้แล้ว และเข้าโรงพยาบาลรัฐได้ และจะมียาใหม่ เช่น ยาปลูกผม ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในปี 2568 โดยคาดว่ารายได้จะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า ตลาดส่งออกยังเป็นอีก growth driver ที่ในงวด 9 เดือนปี 67 เติบโต 11.5% เราคาดรายได้ TMAN ปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 10-15%