เปิดปี 2568 ต้อนรับปีมะเส็ง การลงทุนปีนี้จะเป็นอย่างไร จะเก็บหุ้นหรือขายออกดี ชวนมาพูดคุยกับนายวิน พรหมแพทย์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย (KASSET) ที่จะมาส่องเทรนด์การลงทุนปีนี้ที่บอกเลยว่าไม่ได้ง่าย!!
นั่นเพราะปัจจัยสำคัญรออยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะส่งผลโดยตรงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก, การกลับมาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 2 อาจสร้างความปั่นป่วนอีกรอบ และเศรษฐกิจสหรัฐที่ก่อนหน้านี้สร้างความกังวลว่าอาจเกิดภาวะถดถอยแต่มองแล้วคงโตได้แต่ช้าลง
นายวิน ฉายภาพว่า การลงทุนในปี 2568 จะไม่ดีเท่ากับปี 2567 โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐที่ปีก่อนขึ้นมามาก ปีนี้จึงอาจมี upside ไม่มากแล้ว และอาจผันผวนไปตามนโยบาย ทรัมป์ 2.0 ที่เริ่มด้วยการประกาศกร้าวขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศที่มีเกินดุลการค้ากับสหรัฐค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะกระทบกับราคาสินค้าและดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยช้าลง
ประธานกรรมการบริหาร KASSET จึงแนะนำให้ปรับกลยุทธ์กระจายการลงทุนเพื่อรับมือกับความผันผวน แนะจัดการลงทุนแบบ Core Portfolio (พอร์ตหลัก) กระจายไปในหลายสินทรัพย์ ทั้ง่ หุ้น ตราสารหนี้ กอง REIT และกระจายโลเคชั่นไปในหลายประเทศ ไม่กระจุกตัวที่ใดที่หนึ่ง ให้สัดส่วนการลงทุนพอร์ตหลักไว้ที่ 80%
ส่วนอีก 20% เป็น Satellite port (พอร์ตรอง) เป็นการลงทุนตลาดที่มีความหวือหวา หรือลงทุนระยะสั้นเพื่อหวังผลตอบแทนมากขึ้น เช่น การลงทุนรายประเทศ ราย Sector อาทิ เวียดนาม ที่ปัจจุบันราคายังไม่แพง ส่วนอินเดีย ราคาแพงไปแล้ว อาจรอจังหวะย่อแล้วค่อยซื้อ
นายวิน กล่าวว่า การจัดพอร์ตลักษณะนี้จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีเสถียรภาพมากขึ้น เวลาตลาดขึ้นเราขึ้นด้วยแต่ก็อาจไม่ได้มาก แต่เวลาตลาดลงก็ลงน้อยกว่า ทำให้พอร์ตสามารถรองรับตลาดผันผวนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ได้
"หน้าที่ของ Core Port ทำให้พอร์ตมีความเสถียรมากขึ้น ขาหุ้นขึ้น เราขึ้นด้วยแต่อาจจะขึ้นไม่เยอะ แต่ขาลงก็ลงน้อยกว่า ประคองตัวเองในขาลงได้ดีมาก อันนี้เป็นการตอบโจทย์ว่า อยากให้พอร์ตของผู้ลงทุนทุกคนทำให้นอนหลับได้สบาย ไม่ต้องคิดเยอะ ปีนี้ผมคิดว่าเราจะเจอข่าวอีกมากมาย ทรัมป์ , เทรดวอร์ เราก็จะปั่นป่วนกับข่าวทั้งหลาย" นายวิน กล่าว
https://youtu.be/pbvSz1DmxeU