นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการบริหาร บมจ.น้ำตาลครบุรี [KBS] เปิดเผยว่า กรณีหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก-นำเข้าของจีน หรือ GACC ออกประกาศระงับการนำเข้าสินค้าประเภทน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมจากผู้ผลิตในประเทศไทย 74 ราย เนื่องจากไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาหารนั้น มองว่าประเด็นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทไม่มีโรงงานน้ำเชื่อม และไม่ได้จำหน่ายน้ำเชื่อมแต่อย่างใด จึงไม่ได้อยู่ในรายชื่อ 74 รายที่โดนแบน
"ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ KBS เลย เพราะเราไม่มีโรงงานน้ำเชื่อม โดยมองว่ามาตรการของจีนดังกล่าวที่ออกมา เพื่อต้องการควบคุมโรงงานน้ำเชื่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติที่ก่อตั้งในเขตปลอดอากร (Free Zone) ขณะที่ KBS มีนโยบายการตลาดเน้นส่งออกน้ำตาลไปที่อุสาหกรรมรายใหญ่แบบสม่ำเสมอด้วยตู้คอนเทนเนอร์เป็นหลัก ดังนั้น KBS จึงไม่ได้รับผลกระทบต่อประเด็นนี้แต่อย่างใด" นายอิสสระ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการตลาดเน้นส่งออกน้ำตาลไปยังอุสาหกรรมรายใหญ่แบบสม่ำเสมอ โดยมีลูกค้าประจำที่เป็นผู้ใช้น้ำตาล มีการส่งออกให้กับลูกค้ารายใหญ่อย่างต่อเนื่องปี บริษัทมีการส่งออกน้ำตาลไปยัง เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ ใต้หวัน เวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท ขณะที่ตลาดประเทศจีนมีสัดส่วนที่น้อยมาก และเป็นการจำหน่ายให้อุตสาหกรรมเป็นหลักและผ่านเทรดเดอร์เท่านั้น
สำหรับ บริษัท KBS ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งส่งเสริมให้ชาวไร่ตัดอ้อยสด ลดการตัดอ้อยไฟไหม้ เพื่อตอบรับนโยบายของภาครัฐ โดยมีแผนงานเชิงรุก จึงทำให้สัดส่วนอ้อยสดของโรงงานสูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลภาวะฝุ่น ยังช่วยให้ชาวไร่มีรายได้ค่าอ้อยที่ดีขึ้นจากค่าความหวานที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยโดยเฉลี่ย (yield) เพิ่มขึ้นอีกด้วย