ตลท.สรุป SET ปี 67 ทรงตัว-วอลุ่มหด P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย ปีนี้เสี่ยงเผชิญความผันผวนศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 8, 2025 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลท.สรุป SET ปี 67 ทรงตัว-วอลุ่มหด P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย ปีนี้เสี่ยงเผชิญความผันผวนศก.โลก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนธันวาคมและปี 2567 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์ GDP ของโลกในปี 2568 ลงเล็กน้อย จากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการแยกตัวทางเศรษฐกิจ (Decoupling) อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความผันผวนและการเติบโตช้าลง สอดคล้องกับมุมมองธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ประชุมเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2567 แม้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% แต่ส่งสัญญาณว่าในปี 2568 การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอาจจะไม่ง่ายนัก ทำให้ตลาดหุ้นกลับตอบสนองในเชิงลบในระยะสั้น

ตลท.สรุป SET ปี 67 ทรงตัว-วอลุ่มหด P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย ปีนี้เสี่ยงเผชิญความผันผวนศก.โลก

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท.เปิดเผยว่า SET Index ในปี 2567 ปิดในระดับที่แทบไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้า โดยตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 และปี 2568 ยังสามารถขยายตัวได้ดี นำโดยภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว แต่อาจเผชิญความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้แคมเปญ "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility" โดยแบ่งนโยบายออกเป็น 2 กลุ่มหลัก รวม 11 นโยบาย ซึ่งน่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อหุ้นในหลาย Sector ที่เกี่ยวข้อง

สรุปภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนธันวาคม 2567

  • ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 SET Index ปิดที่ 1,400.21 จุด ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 7.6% ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 SET Index ปรับลดลงเพียง 1.1%
  • เดือนธันวาคม 2567 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มการเงิน
  • มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 40,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่ในปี 2567 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,551 ล้านบาท ลดลง 12.7% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด สามเดือนต่อเนื่อง
  • เดือนธันวาคม 2567 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. โรงพยาบาลนครธน (NKT) และ ใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF)
  • Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.8 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 3.45% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.17%

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนธันวาคม 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 538,570 สัญญา เพิ่มขึ้น 10.4% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ทำให้ในปี 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 483,772 สัญญา ลดลง 9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ