นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมา โดยนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการรายงานในวันศุกร์
ขณะที่ปัจจัยในประเทศังได้แรงหนุนจากปัจจัยภายใน โดยล่าสุด AWS เริ่มมีการเปิดให้บริการ Cloud Data Center ในไทย รวมทั้งหุ้น DELTA ไต้หวันรายงานยอดขายเดือนธ.ค. เติบโตสูงมาก 6% MoM และ 22%YoY เป็น Sentiment บวกกับ DELTA ไทยและหุ้นที่อิงโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี น่าจะมีโอกาสประคองหุ้นไทยปรับขึ้น
นอกจากนี้มีการรายงานข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนจะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติหลังเข้ารับตำแหน่ง เป็นสิ่งที่ตลาดกังวลมาตลอดสะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ดีดตัวขึ้นมาในระดับสูง รวมทั้งดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาด Price in เรื่องนี้ไปมากพอสมควร แต่ก็ต้องติดตามประเด็นดังกล่าวต่อไป
พร้อมให้กรอบแนวต้านที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,635.20 จุด เพิ่มขึ้น 106.84 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,918.25 จุด เพิ่มขึ้น 9.22 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,478.88 จุด ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.06%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,888.91 จุด ลดลง 92.15 จุด หรือ -0.23% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,254.38 จุด ลดลง 25.46 จุด หรือ -0.13% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,220.72 จุด ลดลง 9.45 จุด หรือ -0.29%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ม.ค.) ที่ 1,387.72 จุด ลดลง 3.16 จุด (-0.23%) มูลค่าซื้อขาย 35,418.22 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (8 ม.ค.) 1,175.34 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(8 ม.ค.) ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 73.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ม.ค.) อยู่ที่ 3.78 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.63 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าตามค่าเงินหยวน ให้กรอบวันนี้ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์
- "เฟทโก้" จ่อถก "กระทรวงการคลัง" ต่ออายุ "เอสเอสเอฟ" หวังดึงเงินต่างชาติเข้าไทย ชี้ "อีอีซี" คือความหวังใหม่ "เศรษฐกิจไทย" หนุนการเติบโตเศรษฐกิจ ล่าสุดมี "นักลงทุน" รอเซ็นสัญญาเข้าลงทุน 12 โครงการ มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้าน
- ส่องอสังหาฯปีมะเส็ง เจอสารพัดโจทย์ยาก กำลังซื้อบูสต์ไม่ขึ้น แบงก์หนืดกู้ จับตาแผนเปิดโครงการไตรมาสแรก ไม่หวือหวา รอดูมาตรการเศรษฐกิจ สภาพตลาด แนะรักษาสภาพคล่อง
- "ขุนคลัง" การันตีเศรษฐกิจไทยปี 68 โตฉลุยทะลุ 3% พร้อมทบทวนมาตรการภาษีหวังเป็นแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจ ด้าน "กกร." ห่วงส่งออกแผ่ว วอนรัฐเร่งหามาตรการเบรกสินค้าต่างชาติทะลักเข้าประเทศ
*หุ้นเด่นวันนี้
- OSP (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท แนวโน้มกำไร Q4/67 จะกลับมาเติบโต QoQ, YoY หนุนจากรายได้กลุ่มเครื่องดื่มและ personal care ฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ คาดกำไรจากการขายโรงงานแก้วในเมียนมา 130 ล้านบาท ปี 68 ตั้งเป้ารายได้โต high single digit การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพทำให้รักษา GPM ได้ ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท -13%YoY และ 3.2 พันล้านบาท +54%YoY
- PTT (กสิกรไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 37.00 บาท คงมุมมองเชิงบวกในการเก็งกำไร dividend yield ของปี 67-68 ที่ 5.5% ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (68-72) ลดเงินลงทุนจากเดิมราว 39% จากการดีเลย์ของธุรกิจร่วมทุน JV โครงการก๊าซ เช่น GSP#7 และ GSP#8 และ LNG terminal และท่อส่งการต่างๆ รวมถึงชะลอแผนลงทุนโรงงานรถ EV ทำให้ Net Debt ดีขึ้นในปี 68 ราว 9 พันล้านบาทหรือคิดเป็น 0.30 บาท/หุ้น มูลค่าหุ้นซื้อขายด้วย EV/RBITDA ที่ -2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อยหลัง 5 ปี